“ทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ใด ใจของท่านก็จะอยู่ที่นั่น”
สองสามอาทิตย์นี้เรายังคงอยู่กับพระวาจาที่เตือนให้เราจัดลำดับความสำคัญในชีวิตโดยไม่ต้องกังวลเพราะพระเจ้าจะทรงดูแลเรื่องต่างๆ ให้ หากเราเลือกพระองค์ ตั้งแต่บทภาวนาของพระอาจารย์ที่สอนให้เราวอนขอความจำเป็นต่างๆ ของแต่ละวัน จนกระทั่งคำเตือนเรื่องการสะสมทรัพย์สมบัติแต่ลืมที่จะใส่ใจกับพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง
พระเยซูเจ้าเรียกศิษย์ของพระองค์ว่า “ฝูงแกะน้อยๆ เอ๋ย อย่ากลัวเลย” เพื่อบอกพวกเขาว่าอย่ากังวลถึงความต้องการต่างๆ เพราะพระบิดารู้แล้วว่าเราต้องการอะไร แต่ให้ใส่ใจกับสิ่งที่ควรใส่ใจ นั่นคือ “ทรัพย์สมบัติที่ไม่มีวันหมดสิ้นในสวรรค์”
ปกติแล้วถ้าอยากได้อะไรก็ไปซื้อมา แต่หากไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้อ ก็ต้องทำงานหรือหาอะไรไปแลกเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
หากอยากได้ “ทรัพย์สมบัติที่ไม่มีวันหมดสิ้นในสวรรค์” ก็ต้องแลกด้วยบางสิ่งบางอย่างเช่นเดียวกัน
พระเยซูเจ้านำเสนอว่าหากอยากจะมีทรัพย์สมบัติในสวรรค์ก็ให้ “ขายทรัพย์สินของท่านและให้ทาน” ลูกาเน้นพระวาจาของพระเยซูเจ้าเรื่องนี้ และเรื่องเล่าเกี่ยวกับการให้ทานก็มีเสมอๆ ในข้อเขียนของลูกา ความคิดของพระเยซูเจ้ามักตรงข้ามกับโลกเสมอ ในขณะที่โลกสอนว่าให้ไขว่คว้าทุกสิ่งมาเป็นของตน พระเยซูเจ้าสอนให้แบ่งปัน
การแบ่งปันและให้ทานของพระเยซูเจ้า ณ ที่นี้ดูจะมากกว่าแนวคิดเรื่องการให้ทานของโลกด้วย ในขณะที่โลกขอสิ่งที่เหลือใช้หรือเกินพอจากชีวิตประจำวันให้ผู้ที่ต้องการ พระเยซูเจ้าเชิญให้ “ขายทรัพย์สิน” เพื่อให้ทาน ด้วยเหตุผลที่ไม่ต้องการให้ยึดติดกับทรัพย์สมบัติ เพราะ “ทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ใด ใจของท่านก็จะอยู่ที่นั่นด้วย”
ด้วยเหตุนี้เอง พระเยซูเจ้าจึงไม่อยากให้เราเก็บทรัพย์สมบัติของเราไว้ในโลกนี้ แต่อยากให้เราเก็บไว้ในสวรรค์ ซึ่งวิธีที่จะเก็บไว้ในสวรรค์คือ “การให้ทาน” นั่นเอง
มีคำกล่าวว่าทรัพย์สมบัติในโลกนี้คือสิ่งที่พระเจ้ามอบให้เราจัดการ จึงอาจจะได้มากน้อยไม่เท่ากัน แต่เรามีหน้าที่จัดการทรัพย์สมบัติในโลกนี้ให้ดี ใช้อย่างซื่อสัตย์และรอบคอบ มิใช่ใช้ทรัพย์สมบัติในโลกนี้เพื่อตนเอง หรือเพื่อ “ตบตีผู้รับใช้ทั้งชายและหญิง กินดื่มจนเมามาย” เพราะ “นายของผู้รับใช้คนนั้นจะกลับมาในวันที่เขามิได้คาดหมาย”
บ่อยครั้งเราให้ทรัพย์สินของเราไปกับการลงทุน ใส่ทรัพย์สินของเราไว้ในพอร์ตลงทุนให้ขยายใหญ่มากขึ้น แต่เราลืมจะใส่ทรัพย์สินของเราในพอร์ตแห่งเมืองสวรรค์ หากเราอยากได้ความมั่นคงสำหรับชีวิตในโลกนี้ แล้วทำไมเราจึงไม่อยากได้ความมั่นคงสำหรับชีวิตนิรันดรด้วย?
เราไม่รู้วันเวลาที่พระเจ้าจะมาพบเรา ถ้าวันนั้นพอร์ตลงทุนแห่งเมืองสวรรค์ของเราว่างเปล่า ถ้าพระเจ้าถามเราว่าสิ่งที่พระองค์มอบให้เราดูแลในโลกนี้นั้นอยู่ที่ไหน เราจะตอบพระองค์อย่างไร?.
…ลาซารัส…