อาสนวิหารอัสสัมชัญ 23 เจริญกรุง 40 แขวง/เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทรศัพท์ 02-234-8556, 02-233-7120, […]
อาสนวิหารอัสสัมชัญ 23 เจริญกรุง 40 แขวง/เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทรศัพท์ 02-234-8556, 02-233-7120, […]
แทนคิดสักนิด…สะกิดใจ 13มิถุนายน ระลึกถึง นักบุญอันตน แห่งปาดัว พระสงฆ์ นักปราชญ์ (St. Antony of […]
ข้อคิดอาทิตย์ที่11 เทศกาลธรรมดาปีB มก4: 26-34…พระอาณาจักรพระเจ้าเปรียบเหมือนเมล็ดมัสตาร์ดซึ่งเมื่อหว่านลงในดินก็เป็นเมล็ดเล็กกว่าเมล็ดทั้งปวงทั่วแผ่นดินแต่ครั้นได้หว่านแล้วก็งอกขึ้นและกลายเป็นต้นไม้ใหญ่กว่าพืชผักทุกชนิด…บรรดานกในอากาศมาพักอาศัยร่มเงาได้ ชีวิตของเรามนุษย์เรียกร้องความอดทนและความคาดหวังอย่างมากเลยทีเดียวเราไม่สามารถปลูกเมล็ดพันธุ์พืชในวันนี้แล้วนั่งคอยใต้ร่มเงาไม้เพื่อให้มันเติบใหญ่ในวันรุ่งขึ้นเช่นเดียวกันก็เป็นจริงสำหรับในเรื่องของจิตวิญญาณด้วยเราต้องใช้ความพยายามและรอด้วยความอดทนและความหวังว่าพระหรรษทานของพระเจ้าจะเข้ามาช่วยจัดการให้เจริญงอกงามขึ้นทุกๆวัน ข้อคิด…ในพระวรสารของนักบุญมาระโกบทที่4: 1-34…ได้มีการรวบรวมนิทานเปรียบเทียบต่างๆซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็มักจะพูดถึงการเจริญเติบโตของเมล็ดพันธุ์อันหมายถึงพระวาจาของพระเจ้า ในบทอ่านที่หนึ่งประกาศกเอเสเคียลได้ทำนายไว้ว่าพระเจ้าจะทรงนำเอาแขนงของยอดต้นสนสีดาร์และมาปลูกไว้บนภูเขาสูงของอิสราเอล(นครศิโยน)และภายใต้การดูแลของพระเจ้าแขนงนั้นก็จะเติบโตเป็นต้นสนสีดาร์ทีสง่างามท่านประกาศกเอเสเคียลได้มีความฝันไว้เช่นนั้นว่าพระเจ้าจะทรงปลูกถ่ายประชากรที่ถูกเนรเทศของอิสราเอลให้กลับไปสู่แผ่นดินของบรรพบุรุษของพวกเขาท่านประกาศกได้เล็งเห็นบุตรชายในอนาคตคนหนึ่งของกษัตริย์ดาวิดซึ่งพระอาณาจักรของพระองค์จะเป็นอาณาจักรสากล…พระสัญญาดังกล่าวนี้ได้สำเร็จเป็นไปในองค์พระเยซูเจ้าซึ่งจะเป็นผู้เดินนำหน้าประชากรของพระเจ้าเข้าสู่พระอาณาจักรพระเจ้า อุปมาเรื่องเมล็ดพืชซึ่งงอกขึ้นด้วยตัวของมันเองและเรื่องเมล็ดมัสตาร์ดก็อยากจะสื่อความหมายให้กำลังใจแก่พระศาสนจักรของพระเยซูเจ้าในช่วงเริ่มแรกซึ่งเป็นห่วงกังวลถึงการเจริญเติบโตที่เชื่องช้าของพระศาสนจักรเรื่องอุปมานี้กำลังจะบอกให้บรรดาศิษย์รู้จักอดทนให้มีความหวังและไว้วางใจโดยไม่ต้องคาดหวังผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในทันทีทันใด…เดชะพระฤทธานุภาพของพระเจ้าจากการเริ่มต้นที่เล็กๆและแบบที่แทบจะไร้ความหมายพระอาณาจักร/พระศาสนจักรก็จะพัฒนาเติบโตเป็นอะไรบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ไพศาลได้ในอนาคต ในอุปมาเรื่องเมล็ดพันธุ์ที่งอกขึ้นของมันเองของพระเยซูเจ้าสิ่งที่ควรจะต้องได้รับการเน้นย้ำก็คือความแน่นอนของการเก็บเกี่ยวหลังจากที่ผู้หว่านได้ทำงานของเขาเสร็จไปแล้วเรื่องอุปมานี้ต้องการให้กำลังใจกับบรรดาศิษย์รุ่นแรกๆซึ่งรู้สึกว่าใกล้จะหมดกำลังใจเพราะเห็นแต่สิ่งเล็กๆน้อยๆเท่านั้นที่กำลังเกิดขึ้น […]
สวัสดีครับพี่น้องที่รักพบกันอีกเช่นเคยกับคอลัมน์“คิดสักนิด..สะกิดใจ” กับอาทิตย์ที่10 ของเทศกาลธรรมดาในสัปดาห์ที่เราคริสตชนเพิ่งผ่านพ้นการสมโภชพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าเมื่อวันศุกร์ที่8 มิถุนายนที่ผ่านมาสำหรับในอาทิตย์นี้พ่อจึงขอนำบทความเรื่องความเลื่อมใสศรัทธาต่อพระหฤทัยของพระเยซูเจ้ามาแบ่งปันให้กับพี่น้องกันครับ ความเลื่อมใสศรัทธาหมายถึงความเคารพที่ขึ้นกับความรู้สึกของแต่ละคนคือบุคคลหนึ่ง“มอบตน” “อุทิศตน” หรือ“รู้สึกผูกพันด้วยความรัก”กับอีกบุคคลหนึ่งผู้ใดมีความศรัทธาต่อนักบุญองค์ใดองค์หนึ่งผู้นั้นก็รู้สึกผูกพันด้วยความรักกับนักบุญองค์นั้นเช่นผู้มีความศรัทธาต่อนักบุญอันตนจะระลึกถึงนักบุญองค์นี้ด้วยความรักบ่อยๆไม่เพียงระลึกถึงท่านปีละครั้งในวันฉลองซึ่งตรงกับวันที่13 มิถุนายนแต่เขาจะภาวนาบ่อยๆต่อนักบุญอันตนพยายามแสดงความเคารพด้วยการถวายเทียนจุดประทัดทำทานหรือสวดนพวารฯลฯ ในทำนองเดียวกันพระศาสนจักรเชิญชวนสัตบุรุษให้แสดงคารวกิจต่อพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าไม่เพียงปีละครั้งในวันสมโภชแต่ยังเชิญชวนให้ผู้มีความศรัทธาต่อพระหฤทัยสวดบทภาวนาถวายตนแด่พระหฤทัยทุกวันระลึกถึงพระหฤทัยทุกวันศุกร์ต้นเดือนรับศีลมหาสนิทและนมัสการศีลมหาสนิทเพื่อชดเชยบาปโดยสวดภาวนาสั้นๆเพื่อแสดงความไว้วางใจวอนขอพระพรเพื่อจะได้มีความรู้สึกนึกคิดเยี่ยงพระองค์ปฏิบัติคุณธรรมตามพระฉบับของพระองค์มีรูปปั้นหรือภาพวาดของพระหฤทัยในบ้านแขวนเหรียญพระหฤทัยไว้ติดตัวฯลฯ พื้นฐานของความเลื่อมใสศรัทธาต่อพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า […]
ข้อคิดอาทิตย์ที่10 เทศกาลธรรมดาปีB มก3: 20-35…ถ้าครอบครัวหนึ่งแตกแยกครอบครัวนั้นก็ตั้งมั่นอยู่ต่อไปไม่ได้…และผู้ใดทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าผู้นั้นเป็นพี่น้องชายหญิงและเป็นมารดาของเรา… โครงการที่ดีที่มีประโยชน์สามารถนำไปสู่จุดหมายที่ไม่พึงประสงค์เมื่อเกิดการแตกแยกไม่ยอมฟังกันเข้าใจกันดังที่เราเห็นกันอยู่ทุกๆวัน…โลกเรามนุษย์เต็มไปด้วยความแตกแยกแบ่งพรรคแบ่งพวกไม่ยอมเข้าหากัน…ให้เราอธิษฐานต่อพระเยซูเจ้าให้เราได้เข้าคืนดีกับเพื่อนพี่น้องของเราและเข้าคืนดีกับพระเจ้า ข้อคิด…ในบทอ่านที่หนึ่ง(ปฐก3: 9-15) เราได้แลเห็นความพยายามของอาดัมและเอวาที่จะโยนความผิดของตัวเองไปให้กับงูที่มาล่อลวงหรือแม้ให้กับพระเจ้าด้วย…นอกจากนั้นเรายังได้แลเห็นผลร้ายของบาปอีกด้วยคือความชิดสัมพันธ์กับพระเจ้าความแตกแยกกันระหว่างหญิงกับชายและชายมักจะไม่ซื่อสัตย์ต่อหญิง…ไม่ใช่เป็นพระเจ้าที่ได้ทำให้ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นแต่เป็นเพราะคู่หญิงชายนี่เองแหละอย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ก็ได้จบลงด้วยพระสัญญาแห่งการช่วยให้รอดพ้นของพระเจ้า ส่วนในพระวรสารก็ได้แสดงให้เห็นว่าพระสัญญาแห่งการช่วยให้รอดพ้นนี้ได้สำเร็จเป็นไปในองค์พระเยซูเจ้าพระองค์ได้ทรงขับไล่ปีศาจมารร้ายและได้ทรงสถาปนาพระอาณาจักรพระเจ้าสำหรับผู้ที่เชื่อศรัทธาในพระองค์และทำตามน้ำพระทัยพระเจ้าก็จะได้ยอมรับว่าเป็นพี่และน้องและแม่ของพระองค์ เมื่อพระเจ้าได้ทรงให้จิตใจอิสระแก่อาดัมและเอวาก็เพื่อให้เขาทั้งสองสามารถเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องแต่เขาได้เลือกในสิ่งที่ไม่ถูกต้องการเลือกสิ่งไม่ถูกต้องนั้นเป็นการใช้ใจอิสระไปในทางที่ผิดและเหมือนกับเด็กๆเวลาที่ทำผิดแล้วก็มักจะหลบหน้าซ่อนตัวมากกว่าที่จะเผชิญหน้ากับผลที่ตามมาแต่พระเจ้าก็ได้ตามหาพวกเขาและทรงเรียกอาดัม“เจ้าอยู่ที่ไหน?” […]
หลังจากจบเทศกาลปัสกาแล้วพระศาสนจักรเชิญชวนเราคริสตชนให้ฟื้นฟูความเชื่อและข้อคำสอนสำคัญๆผ่านทางการฉลองต่างๆที่มีอย่างต่อเนื่องในพิธีกรรมนับตั้งแต่การสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์สมโภชพระจิตเจ้าเสด็จลงมาสมโภชพระตรีเอกภาพและมาถึงสัปดาห์นี้คือสมโภชพระวรกายและพระโลหิตของพระคริสตเจ้าซึ่งเราเรียกกันสั้นๆว่าสมโภชพระคริสตวรกายหรือฉลองศีลมหาสนิทนั่นเอง การฉลองศีลมหาสนิทที่มีความหมายสำคัญและเราเองมีโอกาสได้ฉลองอยู่เป็นประจำก็คือบูชามิสซาหรือพิธีบูชาขอบพระคุณ บน“พระแท่น”ซึ่งเป็นศูนย์กลางของวัดของพิธีกรรมผู้ช่วยพิธีกรรมนำแผ่นปังและเหล้าองุ่นมาให้พระสงฆ์และพระสงฆ์ก็วางบนผ้าศักดิ์สิทธิ์สวดบทภาวนาเพื่อให้แผ่นปังและเหล้าองุ่น(รวมทั้งของถวายที่มาจากชีวิตจิตใจของเรา) เป็นของถวายที่คู่ควรและเหมาะสมหลังจากนั้นพระสงฆ์ก็จะสวดบทเสกศีลฯเอ่ยถ้อยคำเดียวกันกับที่พระเยซูได้ตรัสเมื่อสองพันปีก่อนหน้านี้ “รับปังนี้ไปกินให้ทั่วกันนี่คือกายของเรา” […]
ข้อคิดวันสมโภชพระวรกาย และพระโลหิตพระคริสตเจ้า ปี B มก 14: 12-16, 22-25…จงรับเถิด นี่เป็นกายของเรา…นี่เป็นโลหิตของเรา […]
ข้อคิดสมโภชพระตรีเอกภาพ ปีB มธ28: 16-20…ท่านทั้งหลายจงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเราทำพิธีล้างบาปให้เขาเดชะพระนามพระบิดาพระบุตรและพระจิต… เรากำลังทำการสมโภชพระตรีเอกภาพเราเริ่มและจบพิธีบูชาขอบพระคุณและกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวันของเราด้วยการทำเครื่องหมายสำคัญกางเขนเดชะพระนามพระบิดาและพระบุตรและพระจิต…พระตรีเอกภาพซึ่งเป็นธรรมล้ำลึกและที่เราทำการสมโภชในวันนี้และทุกๆครั้งในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณให้เราทำด้วยความรักตามประสาลูกและด้วยความไว้วางใจซึ่งจะทำให้ความสัมพันธ์ของเรากับพระตรีเอกภาพลึกซึ้งยิ่งๆขึ้นในชีวิตของเราแต่ละคน ข้อคิด…สิ่งแรกที่บิดามารดาสอนเราเกี่ยวกับเรื่องของคริสตศาสนาก็คงจะเป็นการทำเครื่องหมายสำคัญกางเขน […]
สวัสดีครับพี่น้องอาทิตย์นี้เราสมโภช“พระจิตเจ้า”วันเกิดของพระศาสนจักรหรือวันฉลอง“เปนเตกอสเต”คำในภาษากรีกที่มีความหมายว่า“50 วัน” ซึ่งสำหรับพวกชาวยิวแล้ววันนี้พวกเขาจะฉลอง50 วันหลังจากวันปัสกาเพื่อเตือนใจถึงบัญญัติ10 ประการที่พระเจ้าประทานให้แก่พวกเขาบนภูเขาซีนายแต่สำหรับเราคาทอลิกพวกเราจะฉลอง50 วันหลังจากพระเยซูเจ้าทรงกลับเป็นขึ้นมาจากความตายและฉลององค์พระจิตเจ้าที่พระเยซูเจ้าทรงสัญญากับเราว่า“จะส่งพระผู้ช่วยลงมา” เพื่อช่วยทำงานของพระศาสนจักรให้เติบโตมีชีวิตชีวาและแผ่ขยายไปทั่วโลกอีกทั้งพระจิตเจ้าองค์นี้ยังมีบทบาทสำหรับเราคริสตชนในการนำทางชีวิตสร้างพละกำลังความเข้มแข็งในการเอาชนะการประจญและสร้างบันดาลใจให้แก่เราคริสตชนโดยพระองค์จะประทับและทำงานอยู่ภายในตัวเราตั้งแต่วันแรกที่เราได้รับศีลล้างบาปและศีลกำลัง ซึ่งพระพรของพระจิตเจ้า(Gifts of The […]
พี่น้องที่รักอาทิตย์นี้เราทำการสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์หลังจากพระองค์ทรงกลับเป็นขึ้นมาจากความตายและพระองค์ทรงใช้เวลานี้อยู่กับอัครสาวก40 วันเพื่อสอนให้บรรดาศิษย์มีความเชื่อและมีพลังในองค์พระจิตเจ้านี้เองเมื่อคิดถึงเลข40 ก็ทำให้พ่อคิดถึงเหตุการณ์สำคัญๆในพระคัมภีร์อยู่หลายตอนด้วยกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ 40 วันในสมัยของโนอาห์เมื่อน้ำท่วมโลกเพื่อชำระล้างทุกสิ่งเป็นเวลา40 วัน 40 วันของโมเสสที่ท่านขึ้นไปรับพระบัญญัติจากพระเจ้าที่ภูขาซีนาย 40 ปีของชาวอิสราเอลที่ออกจากประเทศอียิปต์และร่อนเรในถิ่นทุกกันดารก่อนที่พวกเขาจะเข้าสู่แผ่นดินพันธสัญญา […]