สวัสดีครับพี่น้องที่รัก พบกันเช่นเคยในคอลัมน์ “คิดสักนิด..สะกิดใจ” ในอาทิตย์ที่ 24 ของเทศกาลธรรมดา ซึ่งในพระวาจาของพระเจ้าในคำอุปมาที่พระเยซูเจ้าทรงเล่าในพระวรสารวันนี้ เตือนเราถึงหน้าที่และพันธกิจสำคัญของการเป็นคริสตชน นั่นคือ เรื่องการให้อภัย […]
สวัสดีครับพี่น้องที่รัก พบกันเช่นเคยในคอลัมน์ “คิดสักนิด..สะกิดใจ” ในอาทิตย์ที่ 24 ของเทศกาลธรรมดา ซึ่งในพระวาจาของพระเจ้าในคำอุปมาที่พระเยซูเจ้าทรงเล่าในพระวรสารวันนี้ เตือนเราถึงหน้าที่และพันธกิจสำคัญของการเป็นคริสตชน นั่นคือ เรื่องการให้อภัย […]
POWER OF LOVE IN MYANMAR 3วัน 2คืน By Nok air […]
สวัสดีครับพี่น้องที่รัก พบกันเช่นเคยกับวันอาทิตย์ วันของพระเจ้าในสัปดาห์ที่ 29 ของเทศกาลธรรมดา ปี A และวันอาทิตย์แห่งการฉลอง “วันแพร่ธรรมสากล” ที่พระศาสนจักรทั่วโลกให้บรรดาคริสตชน […]
สวัสดีครับ พี่น้องที่รักพบกันในคอลัมน์ “คิดสักนิด…สะกิดใจ” ของอาทิตย์ที่ 28 เทศกาลธรรมดา พระวรสารในวันนี้พูดถึง “งานเลี้ยงในพระอาณาจักรของพระเจ้า” […]
สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย ที่ สสท.0132/2017 เรื่อง แนวทางการปฏิบัติ การวางดอกไม้จันทน์ในงานศพ บรรดาพระคุณเจ้า […]
สวัสดีครับพี่น้องที่รักพบกันอีกครั้งในอาทิตย์ที่26 เทศกาลธรรมดาของเดือนตุลาคมเดือนของแม่พระและการรณรงค์สวดประคำซึ่งสำหรับในอาทิตย์นี้ทางวัดของเราจะมีการเปิดเดือนแม่พระและสำหรับทางเขตปกครอง1 ของเราก็จะมีการเปิดวัน“ทั่วโลกพร้อมเพรียง ไม่สิ้นเสียงสายประคำ” ในวันเสาร์ที่7 ตุลาคม2017 นี้อย่างเป็นทางการนี้ด้วยที่วัดพระกุมารเยซูกม.8 ซึ่งพี่น้องสามารถไปร่วมงานดังกล่าวได้ด้วยตนเองหรือจะมาลงชื่อเพื่อแสดงเจตจำนงได้ที่ด้านหน้าของวัดได้เช่นกัน […]
สุขสันต์วันคริสต์มาสแด่พี่น้องทุกท่านนะครับพระวรสารตลอด4 สัปดาห์ที่ผ่านมาพวกเราได้เตรียมจิตใจของพวกเรามาเป็นอย่างดีเพื่อทำให้เราได้ค้นพบความหมายที่แท้จริงของวันคริสต์มาสว่า“มีคุณค่าและความสำคัญต่อชีวิตคริสตชนอย่างไร?”ในคอลัมน์“คิดสักนิด..สะกิดใจ”อาทิตย์นี้พ่อจึงอยากนำบทความของคุณพ่อสุรชัยชุ่มศรีพันธุ์ซึ่งเขียนสรุปเกี่ยวกับความหมายของวันคริสต์มาสว่า คริสต์มาสนั่นหมายถึงเวลา 1. เวลาแห่งความทรงจำระลึกถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าการบังเกิดมาของพระผู้ไถ่พระเจ้าเสด็จลงมาในโลกนี้เพื่อสอนและสิ้นพระชนม์เพื่อเราและระลึกว่าพระองค์จะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง 2. เวลาที่จะรัก เป็นช่วงเวลาที่เรารับรู้ความรักของพระเป็นเวลาที่เราต้องรักพระและรักเพื่อนพี่น้องของเรา 3. […]
สวัสดีครับพี่น้องทีรักอีกไม่กี่วันเราก็จะทำการฉลองวันพระคริสตสมภพอาทิตย์สัปดาห์ที่4 นี้เราจะได้ยินคำสำคัญในพระวาจาของพระเจ้าที่เรารู้จักและคุ้นเคยกันดีว่า“อิมมานูแอล”ซึ่งแปลว่า“พระเจ้าสถิตกับเรา” พี่น้องครับคำว่า“เอมมานูเอล” หรือ“พระเจ้าสถิตกับเรา” นี้ทำให้พ่อคิดต่อไปว่าแล้วพระเจ้าทรงประทับอยู่กับเราตอนไหนบ้างในชีวิตของเรา? สำหรับพ่อแล้วคิดว่าพระองค์ทรงประทับอยู่กับเสมอในทุกๆช่วงเวลาในชีวิตของเราและในทุกกิจการที่เรากระทำในเวลาที่เราอ่านพระวาจาและนำไปพระวาจานั้นไปปฎิบัติตามทำให้เรารู้จักพระเจ้ามากขึ้นและเป็นศิษย์ที่แท้จริงของพระองค์ในเวลาที่เราภาวนาทำให้เรามีความเชื่อความศรัทธาและเกิดความไว้วางใจในพระเจ้าให้เวลาที่เราศีลอภัยบาปและศีลมหาสนิทเป็นพิเศษทำให้เราได้คืนดีและมีจิตใจเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์และเป็นพิเศษในภาพของบุคคลที่เจ็บป่วยคนยากจนคนขัดสนและคนต่ำต้อยที่อยู่ท่ามกลางเรา เพราะพระองค์ทรงตรัสว่า“ทุกสิ่งที่ท่านทำต่อพี่น้องผู้ต่ำต้อยที่สุดของเราคนหนึ่งท่านได้ทำสิ่งนั้นต่อเราเอง”(เทียบมธ. 25: 40) และนี่แหละคือความหมายของคำว่า“อิมมานูแอล” […]
สวัสดีครับพี่น้องที่รักเผลอนิดเดียวเราก็มาถึงอาทิตย์ที่สามเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าแล้วและอีกไม่กี่สัปดาห์เราก็จะเข้าสู่วันสมโภชพระคริสตสมภพซึ่งเป็นวันที่มีคุณค่าอย่างมากสำหรับพวกเราในเดือนนี้เราจึงมีกิจกรรมต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นการจับจ่ายใช้สอยการให้ของขวัญการส่งการ์ดความสุขการอวยพรและการเตรียมตัวไปเที่ยวพักผ่อนกันในช่วงสิ้นปีซึ่งสำหรับพ่อถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะครับที่เราจะได้มีเวลาพักกายพักใจจากเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา วันอาทิตย์สัปดาห์ที่3 ของเทศกาลนี้พระศาสนจักรยังเชิญชวนให้เราพิจารณาไตร่ตรองเกี่ยวกับความชื่นชมที่พระบุตรของพระเจ้าจะเสด็จลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ประทับอยู่ท่ามกลางเราซึ่งพระศาสนจักรจะเรียกวันนี้ว่า“วันอาทิตย์แห่งความชื่นชมยินดี” (Gaudete Sunday)โดยคำว่า“Gaudete”เป็นคำภาษาลาตินที่แปลว่า“จงร่าเริงยินดีหรือจงชื่นชมยินดี”เพราะฉะนั้นในอาทิตย์นี้เราจึงอาจเห็นพระสงฆ์ใส่อาภรณ์สีกุหลาบหรือชมพูหรืออาจมีเทียนสีชมพูเล่มที่3 จุดส่องสว่างอยู่ข้างพระแท่นเป็นสีแห่งความชื่นชมยินดีหรือความชื่นบานแทนสีม่วงซึ่งเป็นสีแห่งการเป็นทุกข์กลับใจแล้วทำไมเราต้องชื่นชมยินดี? ก็เพราะว่าอีกไม่กี่วันพระบุตรของพระเจ้าจะเสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์เพื่อช่วยเราทุกคนให้รอดพ้นแล้วดังนั้นพระวาจาของพระเจ้าในอาทิตย์นี้จึงบอกให้เรารู้จักชื่นชนยินดีด้วยความหวังดังที่นักบุญยากอบที่เตือนใจเราว่า“จงมีความพากเพียรและทำจิตใจให้เข้มแข็งเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้เสด็จมาแล้ว” อย่าท้อถอยอย่าสิ้นหวังจนเลิกรอคอยกันไปเพราะพระเจ้าทรงรักษาพระสัญญาที่พระองค์มีต่อมนุษย์อย่างแน่นอนและบทพระวรสารที่เรียกร้องให้เราเข้าสู่สถานการณ์ใหม่แห่งความชื่นชมยินดีความรอดพ้นและการปกครองขององค์พระคริสตเจ้าดังคำพูดของพระเยซูเจ้าทรงกล่าวว่าเวลาแห่งความรอดพ้นมาถึงแล้ว“จงไปบอกยอห์นถึงสิ่งที่ท่านได้ยินและได้เห็นคนตาบอดกลับแลเห็นคนง่อยเดินได้คนโรคเรื้อนหายจากโรคคนหูหนวกกลับได้ยินคนตายกลับคืนชีพและคนยากจนได้รับการประกาศข่าวดี” ดังนั้นพี่น้องครับสิ่งสำคัญที่สุดที่เราควรกระทำเพื่อการรอคอยด้วยความชื่นชมยินดีที่พระเจ้ากำลังเสด็จมาช่วยเราให้รอดพ้นก็คือเปิดใจต้อนรับพระคริสตเจ้าลงมือกระทำด้วยการละทิ้งกิจการแห่งความชั่วร้ายต่างๆและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเราอย่ามั่วรอช้ามั่วแต่คิดหรือมีความความตั้งใจแต่ไม่ลงมือกระทำหรือมั่วแต่คอยมองดูคนอื่นทำและคอยวิพากวิจารณ์เพราะการทำแบบนี้ไม่ได้มีคุณค่าอะไรพ่อชอบเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับคริสโตเฟอร์โคลัมบัสที่เล่ากันว่า เมื่อโคลัมบัสกลับมาจากการเดินทางกษัตริย์สเปนได้จัดงานเลี้ยงฉลองในความสำเร็จของท่านขุนนางที่รู้สึกไม่พอใจและหมั่นไส้ […]
สวัสดีครับพี่น้องที่รักพบกันอีกครั้งในสัปดาห์นี้อาทิตย์ที่2 ของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วพระวรสารและบทจดหมายของนักบุญเปาโลเรียกร้องให้เรามีความหวังโดยรู้จักตื่นเฝ้าระวังละทิ้งกิจการมืดมนและดำเนินชีวิตให้เหมาะสมเพื่อเตรียมตัวต้อนรับองค์พระกุมารเจ้าผู้ทรงบังเกิดประทับอยู่ท่ามกลางเราในสัปดาห์นี้พระวาจาของพระเจ้าจะพูดถึงนักบุญยอห์นบัปติสต์ผู้นำหน้าพระผู้ไถ่ท่านได้สอนเราให้รู้จักกลับใจเตรียมทางและทำทางของพระเจ้าให้ตรงและพร้อมที่จะทำลายกำแพงแห่งการแบ่งแยกที่ขวางกั้นเรากับพระเป็นเจ้าและกับเพื่อนมนุษย์ซึ่งทำให้เราไม่รู้จักรักให้โอกาสเห็นแก่ตัวและยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง หลายวันก่อนพ่อได้มีโอกาสอ่านบทความหนึ่งที่ดีเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้นั่นคือการรู้จักรักการให้โอกาสและการเห็นคุณค่าของผู้อื่นของบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่าNihon Rikagaku Kogyoเป็นบริษัททำชอล์กไร้ฝุ่นเล็กๆแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียวซึ่งรู้จักกันดีในวงการธุรกิจทำชอล์กในฐานะบริษัทอันดับ1 ของประเทศโดยเรื่องราวน่ารักที่พ่อกำลังจะพูดถึงนี้ไม่ได้เป็นเรื่องของการทำธุรกิจว่ามีวิธีการใดทำให้ธุรกิจมีส่วนแบ่งตลาดให้เป็นอันดับ1 แต่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับตัวพนักงานของบริษัทแห่งนี้ที่ร้อยละ70 ของพนักงานทั้งหมดเป็นผู้พิการและทุพพลภาพ ซี่งคำถามที่สำคัญคือทำไมบริษัทถึงต้องจ้างพนักงานผู้พิเศษเหล่านี้ด้วย? ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนคุณOyama […]