• หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us

Category: บทสนทนาจากเจ้าอาวาส

2019-10-13 ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 28 เทศกาลธรรมดา ปี C

ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 28เทศกาลธรรมดาปีC ลก17: 11-19…คนโรคเรื้อนสิบคนเข้ามาเฝ้าพระเยซูเจ้าร้องตะโกนว่า“พระเยซูพระอาจารย์โปรดสงสารพวกเราเถิด”…เมื่อพวกเขาหายจากโรคคนหนึ่งซึ่งเป็นชาวสะมาเรียกลับมาหาพระเยซูเจ้าซบหน้าลงแทบพระบาทขอบพระคุณพระองค์…”ไม่มีใครกลับมาถวายพระเกียรติแด่พระเจ้านอกจากคนต่างชาติคนนี้หรือ”…”จงลุกขึ้นไปเถิดความเชื่อของท่านทำให้ท่านรอดพ้นแล้ว” เรามาชุมนุมกันในโบสถ์นี้เพื่อร่วมถวายพิธีบูชาขอบพระคุณแด่พระเจ้า…พิธีกรรมนี้มีความหมายเป็นการ“ขอบพระคุณ”…ดังนั้นให้เราขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพระพรต่างๆที่เราได้รับจากพระองค์โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยผ่านทางองค์พระเยซูเจ้าพระบุตรของพระองค์… ข้อคิด…พระวาจาของพระเจ้าสำหรับวันอาทิตย์นี้ต้องการจะสอนเราในเรื่องของความกตัญญูหรือการรู้คุณ…จากบทอ่านที่หนึ่งซึ่งเล่าให้เราฟังเรื่องราวของนาอามันชาวซีเรียซึ่งได้รับการรักษาให้หายจากโรคเรื้อนพร้อมทั้งได้ยอมรับว่าพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้าสูงสุดแต่เพียงพระองค์เดียวอันเป็นการปูทางเพื่อไห้เราได้เข้าใจเหตุการณ์ที่พระเยซูเจ้าได้ทรงรักษาให้หายคนโรคเรื้อนสิบคนและมีเพียงคนเดียวซึ่งเป็นชาวสะมาเรียกลับมาขอบพระคุณพระองค์พลางถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า           ในประเทศอิสราแอลสมัยพระเยซูเจ้า…คนที่เป็นโรคเรื้อนจะได้รับการขอร้องให้อยู่ห่างจากคนอื่นๆและต้องร้องป่าวประกาศให้คนอื่นทราบด้วยว่าตนเป็นโรคเรื้อนขณะที่กำลังจะเข้าใกล้ชุมชนที่มีคนอยู่และถ้าหากคนโรคเรื้อนคิดว่าตนได้หายจากการเป็นโรคเรื้อนแล้วก็จะต้องแนะนำตัวให้กับพระสงฆ์ซึ่งสามารถเป็นผู้ประกาศว่าเขาได้หายจากโรคเรื้อนแล้ว(ลนต14) ยนาอามันชาวซีเรียเมื่อได้รับการรักษาให้หายจากโรคเรื้อนด้วยคำบอกของท่านประกาศกเอลีชาแล้วเขาก็ได้รับความเชื่อในพระเจ้าของชาวอิสราแอลและก่อนจะกลับไปประเทศของตนเองก็ได้ไปขอบคุณท่านประกาศก… เช่นเดียวกับที่คนโรคเรื้อนทั้งสิบคนก็น่าที่จะรู้คุณค่าสิ่งทึ่พระเยซูเจ้าได้ทรงกระทำให้กับพวกเขาและพร้อมใจกันไปขอบพระคุณพระองค์…เมื่อพระองค์ได้ทรงรักษาพวกเขาทุกคนให้หายจากโรคเรื้อนแต่ทำไมอีกเก้าคนถึงคิดไม่ออกว่าจะต้องไปกราบขอบพระคุณพระองค์เช่นเดียวกับคนที่สิบซึ่งเป็นชาวสะมาเรีย […]

อ่านต่อ

2019-10-06 ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา ปี C

ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 27 เทศกาลธรรมดาปีC ลก17: 5-10; ฮบก2: 4…ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ดและพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า“จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด” ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน…เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้วจงพูดว่า“ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น”…”ผู้ชอบธรรมจะมีชีวิตเพราะความซื่อสัตย์”           การรับใช้พระเจ้ามิใช่เป็นหน้าที่แต่เป็นสิทธิพิเศษ…คุณภาพที่สำคัญที่สุดสำหรับการรับใช้นั้นก็คือ“ความรัก”…เราได้นำจิตตารมณ์ใดในการมากราบไหว้นมัสการพระเจ้าในพิธีบูชาขอบพระคุณและในการรับใช้พระเจ้า? […]

อ่านต่อ

2019-09-29 ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 26 เทศกาลธรรมดา ปี C

ข้อคิดวันอาทิตย์ที่26 เทศกาลธรรมดาปีC ลก16: 19-31…ลูกเอ๋ยจงจำไว้ว่าเมื่อยังมีชีวิตลูกได้รับแต่สิ่งดีๆส่วนลาซารัสได้รับแต่สิ่งเลวๆบัดนี้เขาได้รับการบรรเทาใจที่นี่ส่วนลูกต้องรับทรมาน… พระเยซูเจ้าได้ทรงเล่าเรื่องอุปมาของเศรษฐีคนหนึ่งที่ไม่รู้จักแบ่งปันแม้กระทั่งเศษอาหารจากโต๊ะอาหารของตนให้กับลาซารัสคนยากจนที่กำลังจะอดตายกำลังนั่งอยู่ที่ปากประตูบ้าน…ความชั่วร้ายที่ยิ่งใหญ่ประการหนึ่งของคนเราในสมัยนี้ก็คือการเพิกเฉยหรือความไม่รู้สึกยินดียินร้ายต่อเพื่อนพี่น้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อคนขัดสนคนยากไร้น่าสงสารคนด้อยโอกาสฯลฯ…ที่จริงพวกเราทุกคนต่างก็เป็นคนยากจนเป็นคนขอทานเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า…ให้เราได้วอนขออภัยจากพระองค์ที่เรามีพฤติกรรมเย็นชาต่อคนที่โชคร้ายกว่าเรา ข้อคิด…วันนี้พระวาจาของพระเจ้าเตือนใจเราว่าทรัพย์สมบัติเป็นวิธีการหรือเครื่องมือในการใช้ชีวิตมิใช่เป็นเป้าหมาย…เราแต่ละคนจะต้องมีปรีชาญาณที่แท้จริงคือจะต้องรู้ว่าอะไรที่สำคัญกว่าในชีวิตของเราเราต้องรู้จักกำหนดความสัมพันธ์ที่ถูกต้องระหว่างวิธีการและเป้าหมายระหว่างทรัพย์สมบัติและโชคชะตาสุดท้ายของชีวิตของเราและดังนี้เราก็จะแน่ใจได้ว่าอะไรที่สำคัญกว่าในชีวิตของเราและอะไรที่มีความสำคัญน้อยกว่า อยากให้เราได้ไตร่ตรองดูโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องอุปมา“เศรษฐีกับลาซารัส” ซึ่งเราสามารถเรียนรู้ได้ในเรื่องดังต่อไปนี้ ให้ใช้ทรัพย์สมบัติอย่างถูกต้อง…เรื่องอุปมาของวันนี้เชิญชวนเราให้ไตร่ตรองว่าจะต้องใช้ทรัพย์สมบัติอย่างไรมากกว่าที่จะไปไตร่ตรองเรื่องของการต้องทนทุกข์ทรมานพระเยซูเจ้ากำลังเตือนใจเรามิให้ใส่ใจในเรื่องของวิธีการหรือเครื่องมือมากไปกว่าเป้าหมาย…อย่าให้ทรัพย์สมบัติขัดขวางเรามิให้มีความเป็นคนมากขึ้นตรงข้ามเราต้องยอมให้ทรัพย์สมบัติทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกับผู้ที่ขัดสนมากยิ่งขึ้น…พระเยซูเจ้าได้พูดถึงอนาคตของผู้เป็นเศรษฐีซึ่งไม่ยอมแบ่งปันทรัพย์สมบัติของตนให้กับคนขัดสนคนที่ต้องการความช่วยเหลือ…พระองค์ไม่ได้บอกว่าทรัพย์สมบัติเป็นสิ่งชั่วร้ายหรือไม่จำเป็นสำหรับชีวิต…แน่นอนเศรษฐีจะไม่สามารถนำทรัพย์สมบัติของตนเข้าไปในโลกหน้า…เศรษฐีคนนั้นคิดได้และเป็นทุกข์กลับใจแต่ว่าช้าเกินไปไม่ทันการณ์ส่วนลาซารัสได้รับความสุขที่คงอยู่เป็นนิรันดร์เป็นรางวัลตอบแทน ให้วางใจในพระเจ้าไม่ใช่ในทรัพย์สมบัติ…เรื่องอุปมามิได้บอกว่าเศรษฐีได้ทรัพย์สมบัติมาอย่างไม่ถูกต้อง…พระวรสารไม่ได้กล่าวโทษความเป็นเศรษฐีของใครแต่กล่าวโทษเศรษฐีที่ไม่ใส่ใจต่อคนขัดสนคนที่ต้องการความช่วยเหลือ […]

อ่านต่อ

2019-09-22 ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา ปี C

ข้อคิดวันอาทิตย์ที่25 เทศกาลธรรมดาปีC ลก16: 1-13…ไม่มีผู้ใดเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้เขาจะชังนายคนหนึ่งและจะรักนายอีกคนหนึ่งเขาจะจงรักภักดีต่อนายคนหนึ่งและจะดูหมิ่นนายอีกคนหนึ่ง…ท่านทั้งหลายจะปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้         สิ่งที่ผู้คนในโลกนิยมนับถือและอยากได้มากที่สุดอย่างหนึ่งก็น่าจะเป็นทรัพย์สมบัติเงินทอง…พระเยซูเจ้าได้ทรงบอกกับพวกเราว่า”ท่านทั้งหลายจะปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้”…เราต่างพร้อมใจกันมาในบ้านของพระเจ้าก็เพื่อที่จะกราบไหว้นมัสการพระองค์มิใช่ด้วยคำพูดของเราเท่านั้นแต่ว่าด้วยหัวใจของเราด้วย ข้อคิด…การใช้เงินทองของเราบนโลกใบนี้เป็นการทดสอบอย่างดีของการเป็นเจ้านายของพระเยซูคริสตเจ้าสำหรับพวกเราที่เป็นคริสตชนคือเราจะเลือกเอาพระคริสตเจ้าหรือเราจะเลือกเอาเงินทอง… ถ้าหากเราคิดว่าเงินทองคือเป้าหมายสำหรับชีวิตของเรามันก็จะล่อให้เราติดกับดักของมันอย่างรวดเร็วและจะตัดเราออกจากพระเจ้าและจากเพื่อนมนุษย์ ให้เราใช้ทรัพยากรของเราอย่างชาญฉลาดเพราะว่าทรัพยากรต่างๆเหล่านี้เป็นของพระเจ้ามิใช่เป็นของเรา มนุษย์เราสามารถใช้เงินทองไปในทางที่ดีและไม่ดีให้เราได้ใช้เงินทองที่เรามีอยู่สำหรับสิ่งดีๆ […]

อ่านต่อ

2019-09-15 ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 24 เทศกาลธรรมดา ปี C

ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 24 เทศกาลธรรมดา ปี C ลก15: 1-32…ในสวรรค์จะมีความยินดีเพราะคนบาปคนหนึ่งกลับใจ…ทูตสวรรค์ของพระเจ้าจะมีความยินดีเช่นเดียวกันเมื่อคนบาปคนหนึ่งกลับใจ…เราจำเป็นต้องเลี้ยงฉลองและชื่นชมยินดีเพราะน้องชายคนนี้ของลูกตายไปแล้วกลับมีชีวิตอีกหายไปแล้วได้พบกันอีก… การทำบาปคือการออกห่างจากพระเจ้า…มีใครในพวกเราที่กล้าพูดว่าตนไม่เคยออกห่างจากพระเจ้าเลย…แต่ว่าพระเยซูเจ้าพระผู้เลี้ยงแกะที่ดีได้เสด็จมาตามหาพวกเราและพระองค์ทรงรู้สึกดีใจเมื่อได้พบพวกเรา…ให้เราได้ขออภัยโทษจากพระเจ้าสำหรับพฤติกรรมต่างๆของเราที่ได้ทำให้ตัวเราต้องออกห่างจากพระองค์… ข้อคิด…มีบางคนกล่าวว่าทำไมคนเลี้ยงแกะจึงต้องทำให้เรื่องแกะตัวเดียวที่หายไปกลายเป็นเรื่องใหญ่โตเมื่อยังมีแกะอื่นๆอีกตั้งเก้าสิบเก้าตัวที่ยังต้องเลี้ยงดูและเอาใจใส่และทำไมหญิงคนนั้นจึงต้องยุ่งอยู่กับเหรียญที่หายไปเพียงเหรียญเดียวและทำไมผู้เป็นบิดาจึงต้องให้ความสำคัญอย่างมากกับบุตรชายคนเล็กที่เอาทรัพย์ส่วนที่เป็นมรดกไปผลาญเสียจนหมดสิ้น ในชีวิตของเราอาจจะมีหลายสิ่งหลายอย่างเมื่ออยู่กับตัวเราเรามักจะไม่ได้ให้ความสำคัญมากเท่าใดนักต้องรอจนกว่าสิ่งนั้นจะหายไปสูญไปเสียก่อนเราจึงจะสามารถแลเห็นความสำคัญของมันดังตัวอย่างเรื่องอุปมาทั้งสามเรื่องของพระเยซูเจ้าในพระวรสารของวันนี้ซึ่งต้องการจะบอกเราว่าสิ่งๆหนึ่งจะกลายเป็นสิ่งมีค่ายิ่งสำหรับเราเพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของเราและเราได้ลงทุนลงแรงอย่างมากเพื่อให้ได้มันมาและเพื่อให้มันอยู่กับเรา และในพระวรสารของวันนี้เราจะแลเห็นท่าทีสองอย่างที่แตกต่างกันระหว่างท่าทีของชาวฟาริสี–ธรรมาจารย์ที่เป็นศัตรูกับคนบาปและท่าทีของพระเยซูเจ้าที่เป็นเพื่อนกับคนบาป…เพราะ“บุตรแห่งมนุษย์ได้เสด็จมาก็เพื่อที่จะตามหาและช่วยให้รอดพันผู้ที่ได้พลัดหลงหรือได้สูญหายไป” ซึ่งเราสามารถแลเห็นและสัมผัสได้ในเรื่องอุปมา“ลูกล้างผลาญ” ของพระเยซูเจ้าที่จริงผู้เป็นบิดาก็ได้สูญเสียบุตรทั้งสองคนคนหนึ่งก็ได้สูญหายไปในประเทศห่างไกลของลูกคนเล็กส่วนอีกคนหนึ่งได้สูญหายไปในถิ่นทุรกันดารแห่งความเป็นศัตรูหรือการผูกใจเจ็บของลูกคนโต…ลูกคนเล็กอยากจะลองใช้ชีวิตที่แตกต่างออกไปจากชีวิตที่บ้านแต่ในที่สุดก็พบกับความผิดหวัง…ส่วนลูกคนโตแม้จะอยู่ที่บ้านไม่ได้ไปไหนก็ไม่ได้ช่วยให้เขาเข้าใจและยอมรับผู้ที่อยู่ด้วยกันกับเขาซึ่งเป็นน้องชายและบิดากลับแสดงอาการโกรธเคืองไม่ยอมเข้าบ้านไปแสดงความยินดีกับผู้เป็นพ่อและน้องชาย แน่นอนผู้เป็นพ่อย่อมรักลูกทั้งสองพร้อมทั้งตั้งความหวังไว้ว่าลูกทั้งสองจะรักและยอมรับซึ่งกันและกัน…ท่าทีของผู้เป็นพ่อสะท้อนให้เห็นถึงความใจกว้างของพระบิดาเจ้าและของพระเยซูเจ้าที่มีต่อคนบาป…พระเยซูเจ้าทรงมีลูกทั้งสองคนในผู้ฟังคำเทศน์สอนของพระองค์ซึ่งเป็นทั้งชาวฟาริสี–ธรรมาจารย์และประชาชนคนบาป […]

อ่านต่อ

2019-09-08 ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา ปี C

ข้อคิดวันอาทิตย์ที่23 เทศกาลธรรมดาปีC         ลก14: 25-33…ถ้าผู้ใดติดตามเราโดยไม่รักเรามากกว่าบิดามารดาภรรยาบุตรพี่น้องชายหญิงและแม้กระทั่งชีวิตของตนเองผู้นั้นเป็นศิษย์ของเราไม่ได้…ผู้ใดไม่แบกกางเขนของตนและติดตามเราผู้นั้นเป็นศิษย์ของเราไม่ได้…         เรามักจะวัดค่าของคนจากความเสียสละที่อุทิศให้กับงานที่ได้รับมอบหมาย…เราคงไม่สามารถคาดหวังที่จะเป็นผู้ติดตามที่แท้จริงของพระคริสต์ได้โดยที่ไม่ต้องออกแรง…ให้เราได้ทำไตร่ตรองว่าการเป็นคริสตชนสำหรับเราให้ความหมายอะไร?…และมีผลกระทบต่อชีวิตของเราอย่างไรบ้าง?…ให้เราอธิษฐานขออภัยโทษจากพระเจ้าที่เรายอมปล่อยให้ความกล้าๆกลัวๆและความเห็นแก่ตัวเข้ามาครอบงำตัวเราทำให้เราอ่อนแอที่จะอุทิศตนเพื่อพระเจ้า         […]

อ่านต่อ

2019-09-01 ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา ปี C

ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 22 เทศกาลธรรมดาปี C           ลก14: 1. 7-14…ทุกคนที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลงแต่ทุกคนที่ถ่อมตนลงจะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น…เมื่อท่านจัดงานเลี้ยงจงเชิญคนยากจนคนพิการคนง่อยคนตาบอดแล้วท่านจะเป็นสุขเพราะคนเหล่านั้นไม่มีสิ่งใดตอบแทนท่านได้ท่านจะได้รับการตอบแทนจากพระเจ้าเมื่อผู้ชอบธรรมกลับคืนชีพ วันหนึ่งพระเยซูเจ้าทรงได้รับเชิญไปงานทานเลี้ยงระหว่างงานทางเลี้ยงนั้นพระองค์ได้ทรงวิพากษ์วิจารณ์ถึงบรรดาแขกรับเชิญซึ่งแย่งกันสำหรับตำแหน่งที่นั่งที่มีเกียรติ…ณที่นี้พระเยซูเจ้าทรงเชิญชวนพวกเรามายังงานทางเลี้ยงของพระองค์ในพิธีบูชาขอบพระคุณซึ่งพระองค์ทรงเป็นเจ้าภาพส่วนพวกเราเป็นแขกของพระองค์…ทุกๆที่นั่งในวัดเป็นที่ที่มีเกียรติทั้งสิ้น…ให้เราได้รู้จักถ่อมตัวลงเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าพลางวิงวอนขออภัยโทษจากพระองค์สำหรับบาปต่างๆของเรา           ข้อคิด…พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้  […]

อ่านต่อ

2019-08-25 ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 21 เทศกาลธรรมดา ปี C

ข้อคิดวันอาทิตย์ที่21 เทศกาลธรรมดาปีC ลก13:22-30…จงพยายามเข้าทางประตูแคบเพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่าหลายคนพยายามจะเข้าไปแต่จะเข้าไม่ได้…กลับถูกไล่ออกไปข้างนอก พระเยซูเจ้าตรัสว่า“จะมีคนจากทิศตะวันออกและทิศตะวันตกทิศเหนือและทิศใต้มานั่งร่วมโต๊ะในพระอาณาจักรของพระเจ้า”…เราได้มาที่บ้านพระแห่งนี้จากที่ต่างๆกัน…ให้เราได้ขอบพระคุณพระเจ้าและวอนขอพระองค์ให้เราได้เป็นผู้เหมาะสมสำหรับจะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระองค์ ข้อคิด…มีชายคนหนึ่งเข้ามาทูลถามพระเยซูเจ้าว่า“มีน้อยคนใช่ไหมที่เอาตัวรอด?”…ชายคนนั้นน่าจะเป็นชาวยิวซึ่งคาดหวังจะได้รับคำตอบว่าเฉพาะชาวยิวเท่านั้นที่จะสามารถเข้าพระอาณาจักรแห่งสวรรค์ได้ส่วนคนต่างศาสนาไม่มีสิทธิ์ พระเยซูเจ้าได้ทรงหยิบยกเอาคำถามของชายคนนี้ขึ้นมาใช้เป็นคำเตือนสำหรับคนร่วมสมัยกับพระองค์ว่า…”จงพยายามเข้าทางประตูแคบเพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่าหลายคนพยายามจะเข้าไปแต่จะเข้าไม่ได้”…พระองค์กำลังต้องการจะบอกกับพวกชาวยิวว่าพวกเขากำลังอยู่ในอันตรายที่จะไม่ได้เข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้าเพราะพวกเขามิได้ใส่ใจที่จะกลับใจตามคำเรียกร้องของพระองค์ เราคงเคยได้สังเกตุเห็นว่าประตูกลางของปราสาทพระราชวังหรือของคฤหาสน์ใหญ่โตหรือของโรงแรมสี่ดาวห้าดาวมักจะเป็นประตูที่กว้างใหญ่บุคคลเข้าออกได้สะดวกขอเพียงแต่ให้แต่งตัวหรูหราดูเหมือนเป็นคนมีตำแหน่งมีฐานะโดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนดีมีศีลธรรมหรือมีมนุษยธรรมแต่อย่างใด แต่ว่าในเวลาเดียวกันในอาคารใหญ่โตที่ว่านี้ก็มักจะมีประตูเล็กๆแคบๆอยู่ด้วยเสมอและเพื่อที่จะสามารถเข้าทางประตูเล็กๆแคบๆนี้ได้  จำเป็นต้องทำตัวให้เล็กให้ต่ำต้อยและต้องสลัดทิ้งสิ่งที่ทำให้ตัวรุ่มร่ามโดยไม่จำเป็นออกไปด้วย ตัวอย่างของภาพทั้งสองคงจะช่วยให้เราได้เข้าใจสิ่งที่พระเยซูเจ้าต้องการสอนพวกเราในวันนี้เมื่อพระองค์ทรงกล่าวว่า”จงพยายามเข้าทางประตูแคบ”…ทั้งยังจะช่วยให้เราได้เข้าใจสิ่งที่พระองค์บอกกับผู้ที่ติดตามพระองค์ในอีกโอกาสหนึ่งว่า  […]

อ่านต่อ

2019-08-18 …ข้อคิดวันสมโภชพระนางมารีย์ ได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ…

…ข้อคิดวันสมโภชพระนางมารีย์ ได้รับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ… ลก1:39-56…วิญญาณข้าพเจ้าประกาศความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าจิตใจของข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในพระเจ้า…พระองค์ทรงยกย่องผู้ต่ำต้อยให้สูงขึ้น… ในวันนี้พระศาสนจักรถวายเกียรติแด่สาวใช้ผู้สุภาพต่ำต้อยแห่งนาซาเร็ธเพราะผ่านทางพระนางโลกได้ต้อนรับองค์พระผู้ไถ่เราคริสตชนต่างมีความชื่นชมยินดีที่พระนางได้มีส่วนในพระเกียรติมงคลของพระบุตรของพระนางในเมืองสวรรค์และจากเมืองสวรรค์พระนางทรงกำลังเฝ้าดูเราอยู่…ให้เราได้หันกลับมาหาพระเจ้าพระผู้ซึ่งพระนางได้ทรงบอกกับเราว่าพระองค์ทรงเป็นผู้เปี่ยมด้วยความรักและเมตตาสงสาร ข้อคิด…พระสันตะปาปาปีโอที่12 ในวันที่1 พฤศจิกายนค.ศ. 1950ในพระสมณสาสน์“Munificentissimus Deus” ของพระองค์ได้ประกาศว่า“พระนางพรหมจารีมารีย์พระมารดานิรมลของพระเจ้าเมื่อได้จบชีวิตบนแผ่นดินของพระนางแล้วก็ได้ถูกยกขึ้นสู่เกียรติมงคลแห่งเมืองสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ” […]

อ่านต่อ

2019-08-11 ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 19 เทศกาลธรรมดา ปี C

ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 19 เทศกาลธรรมดา ปี C ลก12: 32-48…ทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ใดใจของท่านก็จะอยู่ที่นั่นด้วย…ท่านทั้งหลายจงเตรียมพร้อมไว้เพราะบุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จมาในเวลาที่ท่านมิได้คาดหมาย… เราเป็นคนรับใช้ของพระเจ้าและเป็นคนรับใช้ซึ่งกันและกัน…แต่ว่าเราเป็นคนรับใช้ประเภทไหน?…ให้เราได้ขออภัยโทษจากพระเจ้าเพราะบาปต่างๆของเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งความไม่ใส่ใจในการรับใช้พระองค์และเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ข้อคิด…หลายๆคนคงได้เคยขึ้นเครื่องบินกันแล้ว  ก่อนที่เครื่องบินจะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าจะมีเจ้าหน้าที่บนเครื่องบินบอกบางอย่างแก่เราเช่น“ขอให้ท่านให้ความสนใจกับสิ่งที่เราจะแสดงให้ท่านดูเพื่อความปลอดภัยของท่านขณะที่เครื่องกำลังบินอยู่”…แล้วจึงตามมาด้วยการสาธิตให้ดูถึงการคาดเข็มขัดนิรภัยและให้คำแนะนำกับท่านว่าควรคาดเข็มขัดนี้ในขณะที่เครื่องกำลังจะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเขาจะบอกให้ท่านทราบทางออกฉุกเฉินและจะทำอย่างไรเมื่อเกิดการเตือนฉุกเฉินการใช้หน้ากากออกซิเจนของแต่ละคนที่จะหย่อนลงมาตรงหน้าของท่านและจะบอกท่านว่าใต้ที่นั่งของท่านมีเสื้อชูชีพเพื่อใช้ในกรณีที่เกิดเหตุขัดข้องเครื่องบินตกฯลฯ เบื้องหลังทุกอย่างของความมุ่งหมายเหล่านี้ก็เพื่อช่วยผู้โดยสารให้เตรียมตัวไว้สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นโดยมิได้คาดหมาย…แต่มีกี่คนที่ให้ความสนใจในสิ่งที่เจ้าหน้าที่เตือนเพราะว่าอะไรก็ตามที่ทำให้ตกใจกลัวนั้นถ้ายังไม่เกิดขึ้นจริงๆคนเราก็จะยังไม่ตระหนกตกใจกลัวและร้องหาคนช่วย ในพระวรสารพระเยซูเจ้าทรงให้คำแนะนำในเรื่องของเที่ยวบินแห่งชีวิตเที่ยวบินที่เราทุกคนกำลังโดยสารและเดินทางอยู่พระองค์ตรัสให้เราเตรียมตัวสำหรับสิ่งที่มิได้คาดหมายเอาไว้เหมือนกับผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ที่เตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอสำหรับต้อนรับนายที่จะกลับมา…มิใช่ด้วยความกลัวแต่ด้วยความเชื่อศรัทธาและความไว้วางในในพระเจ้า ในขณะที่ชีวิตกำลังดำเนินไปเรามีความตระหนักเพิ่มมากขึ้นว่าชีวิตกำลังผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วและรับรู้ว่าจะจัดการกับชีวิตของตนอย่างไรเพื่อการนี้…ชีวิตของเรามนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาจากก้อนหินหรือจากโลหะที่แข็งแรงคงทนแต่ถูกสร้างมาจากวัสดุที่เปราะบางมากชีวิตสามารถจะถูกพรากไปจากเราได้ในชั่วพริบตาเดียวโดยรับรู้ได้จากประสบการณ์ที่เราได้พบได้เห็นจากคนที่อยู่ด้วยกันกับเราซึ่งอาจจะเป็นเพื่อนของเราคนที่เรารู้จักคนที่เรารักอย่างไรก็ตามชีวิตที่สั้นและเปราะบางนี้จะนำเราไปสู่บ้านแท้ของเราอันเป็นบ้านที่จะทำให้เราเป็นสุขไปตลอดชั่วนิจนิรันดร์ […]

อ่านต่อ

Posts pagination

1 … 29 30 31 … 66

เกี่ยวกับวัดฯ

  • ประวัติอาสนวิหาร
  • แม่พระอัสสัมชัญ
  • บรรณฐาน
  • สถาปัตยกรรม
  • กระจกสี
  • ภาษาลาตินในวัด

บริการต่างๆ

  • ล้างบาปทารก / Baptisms
  • แต่งงาน / Wedding
  • การขออนุญาตถ่ายภาพ

สารวัดย้อนหลัง

  • บทสนทนาจากเจ้าอาวาส
  • คิดสักนิด...สะกิดใจ...
  • ปลัดแก่ ซอย40
  • ปี 2012

บุคลากร/องค์กรต่างๆในวัด

  • พระสงฆ์
  • สำนักงานวัด
  • สภาภิบาล
  • นักขับร้อง
  • สโมสรเยาวชน

ลิงค์คาทอลิก

  • สภาสังฆราชคาทอลิกประเทศไทย
  • อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
  • หอจดหมายเหตุ อัครสังฆมณฑลฯ
  • สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย
  • ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025
Facebook-f Youtube