• หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us

Category: บทสนทนาจากเจ้าอาวาส

2019-04-07 ข้อคิดอาทิตย์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต ปี C

ข้อคิดอาทิตย์ที่ 5เทศกาลมหาพรตปี C ยน8: 1-11…นางเอ๋ย…เราก็ไม่ลงโทษเจ้าด้วย…ไปเถิดและตั้งแต่นี้ไปอย่าทำบาปอีก… เราซึ่งเป็นคนบาปบางทีเราก็ยังอยากขว้างก้อนหินปรับโทษเพื่อนพี่น้องของเราอยู่…ดังนั้นขณะที่เรากำลังพิจารณาดูบาปความผิดของเราอยู่ในขณะนี้ต่อหน้าแท่นบูชาขององค์พระเยซูคริสตเจ้าเราอาจจะจำได้ว่าเราเคยได้ตัดสินหรือเข้าใจผิดต่อเพื่อนพี่น้องของเราอย่างใจร้ายเกินเหตุและอย่างไม่เป็นธรรม…ก็ขอให้เราได้ทูลขออภัยจากพระเจ้าและจากองค์พระเยซูเจ้าด้วยจิตสำนึกแห่งความเป็นคนบาปของเรา ข้อคิด…ไม่มีใครสมควรจะโดนตัดสินลงโทษมากไปกว่าคนที่หลอกตัวเองว่าเป็นผู้ชอบธรรม…เมื่อคนอื่นเกิดเรื่องอะไรขึ้นเขาคนนั้นจะต้องใช้มาตรฐานที่สูงส่งสำหรับจะว่ากล่าวลงโทษพลางมีข้อเรียกร้องมากมายไม่ยอมรับข้อแก้ตัวใดๆทั้งสิ้นจากคนๆนั้นไม่มีการยกเว้นและทนไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น…แต่เมื่อเรื่องเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับตัวเองเขาก็จะทำเป็นตาบอดมองไม่เห็นความผิดของตนเองและให้อภัยตัวเองได้อย่างง่ายๆ ในทางกลับกันก็ไม่มีใครที่จะมีเมตตาธรรมและเข้าใจคนอื่นมากไปกว่าคนที่มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นคนดีจริงๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งในองค์พระเยซูเจ้าเองซึ่งเราได้เห็นตัวอย่างอันน่าอัศจรรย์นี้ในพฤติกรรมที่พระองค์ได้ทรงแสดงต่อหญิงคนบาปคนนั้นที่ถูกจับได้ขณะล่วงประเวณีในพระวรสารที่เราเพิ่งได้ยินได้ฟังเมื่อสักครู่นี้…และนอกจากนั้นก็ยังมีบรรดานักบุญซึ่งเราสามารถพบเห็นตัวอย่างได้ในชีวิตของพวกท่าน หญิงคนบาปคนนั้นถูกจับได้และจะต้องโดนลงโทษเอาหินทุ่มจนตายตามบทบัญญัติของโมเสสก็เพียงเพราะได้ล่วงประเวณีแต่ว่าณที่เกิดเหตุการณ์และณที่นี้ในวัดของเราก็อาจจะยังมีบาปอื่นๆอีกมากมายและอาจจะเป็นบาปหนักๆและร้ายแรงกว่าด้วยของคนที่กำลังคิดจะเอาหินทุ่มหญิงคนนั้นและของพวกเรา มีบาปที่น่าเกลียดน่าชังอย่างอื่นๆที่คงจะได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกันจากพวกคัมภีรจารย์และพวกฟาริสีพวกเขาได้ทำการประจานนางให้ได้รับความอับอายอย่างสุดๆเป็นความอับอายต่อหน้าสาธารณชนเราคงได้ยินได้ฟังหรือได้เห็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์หรือในโทรทัศน์ว่าหลายๆคนได้ยอมฆ่าตัวตายดีกว่าจะต้องโดนประจานให้อับอายขายหน้าทำให้เสียศักดิ์ศรี…บรรดาธรรมาจารย์และพวกฟาริสีไม่ได้แสดงออกให้เห็นถึงความรู้สึกของคนอื่นในเรื่องนี้เลยหรือแม้จะปฏิบัติต่อคนอื่นในฐานะที่เป็นมนุษย์เหมือนๆกับพวกเขาหญิงคนบาปคนนั้นคงจะเป็นใครบางคนที่พวกเขาคิดว่าสามารถใช้เป็นกับดักสำหรับจับผิดพระเยซูเจ้าได้การใช้บุคคลอื่นในลักษณะเช่นนี้จะต้องได้รับการประณามมากกว่าเสียอีก นอกจากนั้นยังมีบาปที่ได้เกิดขึ้นในท่าทีของพวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสีที่มีต่อพระเยซูเจ้าอีกด้วยพวกเขากำลังดำเนินตามหนทางแห่งความมืดบอดพวกเขามีแต่เป้าหมายเดียวคือต้องการกำจัดพระองค์เท่านั้นซึ่งเท่ากับว่าพวกเขาได้ทำการฆาตกรรมพระเยซูเจ้าทางความคิดแล้วก่อนที่จะลงมือทำจริงๆ […]

อ่านต่อ

2019-03-31 ข้อคิดอาทิตย์ที่ 4 เทศกาลมหาพรต ปี C

ข้อคิดอาทิตย์ที่ 4 เทศกาลมหาพรตปี C ลก15: 1-3, 11-32…คุณพ่อครับลูกทำบาปผิดต่อสวรรค์และต่อคุณพ่อด้วย… เป็นคำพูดที่ลูกคนเล็กคนนั้นได้กล่าวกับผู้เป็นพ่อของตนในพระวรสารของวันอาทิตย์นี้…ทุกครั้งเวลาที่เราเริ่มพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณเราก็ได้รับการเชื้อเชิญให้คิดถึงบาปผิดของเราแต่ละคนโดยให้เราได้ใช้คำพูดของเราเองและแสดงออกซึ่งอารมณ์ความรู้สึกแห่งการสำนึกผิดของลูกคนเล็กคนนั้นต่อพระเจ้า ข้อคิด…อุปมาเรื่องลูกล้างผลาญน่าจะเป็นเรื่องอุปมาของพระเยซูเจ้าที่พวกเราคริสชนรู้จักกันดีที่สุดเรื่องหนึ่งและเป็นเรื่องที่น่ารักมากที่สุดเรื่องหนึ่งด้วยแต่ก็ยังมีบางคนที่กล่าวหาว่าเป็นเรื่องอุปมาที่ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลยพวกเขารู้สึกเสียใจสำหรับลูกคนโตเพราะเชื่อว่าไม่ได้รับความยุติธรรมจากผู้เป็นพ่อส่วนลูกคนเล็กน่าจะต้องถูกทำโทษหนักๆและผู้เป็นพ่อต้องสั่งสอนเขาให้เข็ดหลาบ ลูกคนเล็กตั้งใจขอมรดกในส่วนที่ตนเองควรจะต้องได้พอได้ส่วนแบ่งแล้วก็เริ่มออกเรร่อนพเนจรและขอเสพความสุขทุกชนิดที่ตัวเองต้องการเมื่อเงินทองทรัพย์สมบัติที่ได้รับจากพ่อเริ่มพร่องลงไปเรื่อยๆจนกระทั่งไม่มีอะไรเหลือและไม่มีที่ไหนต้อนรับเขาอีก…เขาเริ่มรู้สึกเจ็บปวดไม่สบายใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ทำให้ผู้เป็นพ่อเจ็บปวดและไม่สบายใจเพราะตัวเองเป็นต้นเหตุเขาจึงพูดกับตัวเองและอยากจะบอกพ่อว่า“ฉันจะกลับไปหาพ่อของฉันและบอกพ่อว่าลูกขอโทษ”…ช่างเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญและต้องการที่จะทำให้สำเร็จเพราะไม่ง่ายที่คนเราจะกล่าวคำว่า“ขอโทษ” แม้ในเรื่องเล็กๆ […]

อ่านต่อ

2019-03-24 ข้อคิดอาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต ปี C

ข้อคิดอาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรตปีC ลก13: 1-9…นายครับปล่อยมันไว้ปีนี้อีกสักปีหนึ่งเถิดผมจะพรวนดินรอบต้นใส่ปุ๋ยดูซิปีหน้ามันจะออกผลรือไม่  ถ้าไม่ออกผลท่านจะโค่นทิ้งเสียก็ได้…เราบอกท่านทั้งหลายว่าถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิตทุกท่านจะพินาศไปเช่นเดียวกัน พระเยซูเจ้าได้ทรงกล่าวกับผู้คนร่วมสมัยกับพระองค์ว่า“ถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิตทุกท่านจะพินาศไปเช่นเดียวกัน” และคำพูดคำเดียวกันนี้พระองค์ก็ทรงพูดกับเราทุกคนในขณะนี้ด้วย…ทุกครั้งเมื่อเราเริ่มพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณเราก็จะเริ่มด้วยการเป็นทุกข์กลับใจพลางอธิษฐานภาวนาขอพระองค์ได้โปรดให้อภัยบาปความผิดต่างๆของเราและให้เราได้กลับใจมาหาพระองค์ ข้อคิด…บทอ่านที่หนึ่ง(อพย3: 1-8. […]

อ่านต่อ

2019-03-17 ข้อคิดอาทิตย์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต ปี C

ข้อคิดอาทิตย์ที่2 เทศกาลมหาพรตปี C ลก9: 28-36…พระเยซูเจ้าทรงนำเปโตรยอห์นและยากอบขึ้นไปบนภูเขาเพื่ออธิษฐานภาวนาขณะที่ทรงอธิษฐานภาวนาอยู่นั้นลักษณะของพระพักตร์พระองค์เปลี่ยนไปและฉลองพระองค์มีสีขาวเจิดจ้า… บนภูเขาทาบอร์นักบุญเปโตรยากอบและยอห์นได้มีโอกาสแลเห็นพระเกียรติมงคลซึ่งได้ถูกบังซ่อนไว้ในองค์พระเยซูเจ้า…เช่นเดียวกันโดยอาศัยความเชื่อเราก็ได้ชื่นชมพระเกียรติมงคลของพระเยซูเจ้าพระผู้ได้ทรงกลับคืนพระชนมชีพพระองค์ผู้ยังดำรงชีพอยู่ในพระศาสนจักรและในเราแต่ละคน บาปของเราแต่ละคนได้ทำให้ชีวิตของเราเสียโฉมและทำให้ภาพลักษณ์แห่งความเป็นบุตรของพระเจ้าในตัวเราเปื้อนหมองมีมลทิน…ขอให้เราได้เป็นทุกข์กลับใจและขอพระองค์โปรดคืนศักดิ์ศรีนี้ให้ด้วย ข้อคิด…บทอ่านที่หนึ่งจากหนังสือปฐมกาล(ปฐก15: 5-12. 17-18) กล่าวถึงพระสัญญาของพระเจ้าที่ได้ทรงกระทำกับท่านอับราฮัมว่าท่านจะมีลูกหลานจำนวนมหาศาลซึ่งจะได้ครอบครองแผ่นดินของชาวคานาอันอันเนื่องมาจากความซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าของท่าน […]

อ่านต่อ

2019-03-10 ข้อคิดอาทิตย์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต ปี C

ข้อคิดอาทิตย์ที่ 1 เทศกาลมหาพรตปีC ลก4: 1-13…พระจิตเจ้าทรงนำพระเยซูเจ้าไปยังถิ่นทุรกันดารทรงถูกปีศาจผจญเป็นเวลา40 วัน…และเมื่อปีศาจทดลองพระองค์ทุกวิถีทางแล้วจึงแยกจากพระองค์ไป… เมื่อวันพุธที่แล้วซึ่งเป็นวันพุธรับเถ้าพระศาสนจักรได้เชิญชวนพวกเราให้เริ่มต้นออกเดินทางแห่งชีวิตเป็นการเดินทางแห่งชีวิตในช่วงเทศกาลมหาพรตมุ่งไปสู่การสมโภชปัสกาขององค์พระเยซูเจ้าพวกเราเป็นประชากรที่ได้รับศีลล้างบาปแล้วแต่ยังมิได้เจริญชีวิตคริสตชนอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ตามพันธะแห่งศีลล้างบาปที่ได้รับ… เทศกาลมหาพรตจึงเรียกร้องพวกเราให้ทำการกลับใจด้วยการเปลี่ยนแปลงหัวใจและใช้ชีวิตตามจิตตารมณ์พระวรสารอย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น…เราเห็นพระเยซูเจ้าได้ทรงต่อสู้กับการประจญและเอาชนะได้พระองค์จะทรงช่วยเราให้เอาชนะการประจญต่างๆถ้าเราจะได้เชื่อศรัทธาในพระองค์และอธิษฐานภาวนาทูลขอความช่วยเหลือจากพระองค์ ข้อคิด…บทอ่านทั้งสามบทของพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณในวันนี้พูดถึงความเชื่อศรัทธาในพระเจ้าและความซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า… ในบทอ่านแรกจากหนังสืออพยพ(อพย26: […]

อ่านต่อ

2019-02-24 ข้อคิดอาทิตย์ที่ 7เทศกาลธรรมดา ปี C

ข้อคิดอาทิตย์ที่ 7 เทศกาลธรรมดาปี C ลก6: 27-38…จงรักศัตรูจงทำดีต่อผู้ที่เกลียดชังท่านจงอวยพรผู้ที่สาปแช่งท่านจงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่ทำร้ายท่าน… พระเยซูเจ้ายังทรงอยากบอกกับเราต่อไปอีกว่าให้เราเป็นผู้เมตตากรุณา…อย่าตัดสินคนอื่น…อย่ากล่าวโทษเขา…อยากให้คนอื่นทำต่อเราอย่างไรก็จงทำอย่างนั้นต่อเขาเถิด…ดังนั้นให้เราลองไตร่ตรองดูซิว่าเราได้ปฏิบัติต่อผู้อื่นแบบเดียวกับที่พระเยซูเจ้าทรงสอนหรือเปล่า? -ข้อคิด…พระเยซูเจ้าบอกพวกเราว่า“จงรักศัตรูของท่าน…จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่ทำร้ายท่าน”…พระองค์ทรงท้าทายพวกเราคริสตชนให้ตอบโต้สิ่งไม่ดีด้วยสิ่งดีๆให้ตอบโต้สิ่งเลวร้ายในตัวคนอื่นด้วยสิ่งที่ดีที่สุดจากตัวของเรา…ประเด็นที่สำคัญที่สุดสำหรับมนุษย์เราในทุกวันนี้คือเราจะต่อต้านความชั่วร้ายโดยไม่ซ้ำเติมความชั่วร้ายให้มากเข้าไปอีกได้อย่างไร เราคริสตชนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าเราได้ทำหน้าที่ของคริสตชนที่ดีถ้าเราไม่ทำร้ายผู้ที่เป็นศัตรูกับเราแต่พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องจากเรามากกว่านั้นคือพระองค์ทรงร้องขอพวกเราให้รักศัตรูซึ่งตามความรู้สึกของเราแม้ว่าเป็นสิ่งยากและเกือบจะเป็นไปไม่ได้เอาเสียเลยแต่ถ้าเรามีใจเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ก็จะทำได้โดยให้เราดูแบบอย่างของพระเยซูเจ้าที่พระองค์ทรงขอให้พระบิดาเจ้าให้อภัยแก่ผู้ที่มีส่วนร่วมในการให้เอาพระองค์ไปตรึงกางเขนหรือเหมือนเช่นกษัตริย์ดาวิดในบทอ่านแรกที่ห้ามแม่ทัพของท่านมิให้ทำร้ายกษัตริย์ซาอูล…อย่าฆ่าเขาเลย(กษัตริย์ซาอูล) เพราะใครเล่าที่ทำร้ายผู้รับเจิมของพระยาห์เวห์แล้วจะไม่ผิด? แม้กระทั่งในระดับของมนุษย์โดยทั่วๆไปคำสั่งสอนของพระเยซูเจ้าก็เป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมมีเหตุมีผลและควรจะได้นำเอาไปปฏิบัติเพราะผู้ที่จะสามารถหยุดความชั่วร้ายได้ก็คือคนที่รู้จักซึมซับความชั่วร้ายนั้นด้วยใจสุภาพถ่อมตนด้วยความอ่อนโยนและเมตตาสงสารและจะไม่ยอมให้มันเลยเถิดมากไปกว่านั้น การแก้แค้นและการผูกใจเจ็บมีแต่จะทำให้สติปัญญาและน้ำใจของเราบอดมืดทับทมเป็นเท่าทวีคูณมากขึ้นไปอีกการยอมรับเอาท่าทีที่จะต้องแก้แค้นให้ได้เหมือนกับทำให้เราโดนยาพิษแห่งความเกลียดชังซึมลึกเข้าไปในเนื้อหนังในกระดูกของเรามากขึ้นไปอีก […]

อ่านต่อ

2019-02-17 ข้อคิดอาทิตย์ที่ 6 เทศกาลธรรมดา ปี C

ข้อคิดอาทิตย์ที่6 เทศกาลธรรมดา ปี C ลก6: 17.20-26…ผู้ที่ยากจนก็เป็นสุขเพราะพระอาณาจักรของพระเป็นเจ้าเป็นของพวกท่าน… ต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมน้ำจะเจริญเติบโตและออกผล…เช่นเดียวกันสำหรับผู้ที่วางใจในพระเจ้าก็จะเป็นผู้มีความสุข…ในขณะที่เราชุมนุมกันอยู่ในบ้านของพระเจ้าอยู่นี้ก็ขอให้เราได้อธิษฐานวอนขอต่อพระองค์ได้ทรงทวีความเชื่อและความหวังในพระองค์ให้ยิ่งวันยิ่งมากขึ้น ข้อคิด…มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เราสามารถสังเกตเห็นได้ในบ้านของเศรษฐีหรือของบรรดาผู้มีอันจะกินทั้งหลายคือการขาดชีวิตชีวาและเสียงหัวเราะที่สนุกสนานครื้นเครงและเราแทบจะไม่เห็นเด็กๆวิ่งเล่นกันในสนามหญ้าแม้พวกเขาจะมีทุกสิ่งทุกอย่างแต่พวกเขาก็ไม่มีความสุขไม่มีความสนุกสนานร่าเริง นักเขียนเรื่องนิยายที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งเล่าว่าป้าของเธอทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ในบ้านของเศรษฐีสามีภรรยาคู่หนึ่งบ้านที่มีห้องนอนถึง๑๔ห้องหน้าที่หลักของป้าคนนี้คือทำอาหารทุกๆวันคุณป้าแม่บ้านผู้นี้จะต้องเตรียมอาหารเช้าเบาๆอาหารเที่ยงดีๆและอาหารเย็นที่หรูหราสำหรับเศรษฐีสามีภรรยาคู่นี้และแขกของเขาที่มักจะมาร่วมสังสรรค์บ่อยๆ เมื่อวันเวลาผ่านไปเศรษฐีคู่นี้มีอายุมากขึ้นก็เลิกรับแขกอาหารเย็นก็จะเหลือแต่ไข่เจียวขนมปังปิ้งและชาหรือกาแฟอ่อนๆถ้วยหนึ่งเศรษฐีตายายคู่นี้นั่งทานอาหารกันอย่างเงียบๆและแทบจะไม่ได้มองหน้ากันในระหว่างทานอาหาร ในขณะเดียวกันเกือบทุกเย็นวันเสาร์คุณป้าแม่บ้านมักจะเชิญเพื่อนๆและคนรู้จักมักคุ้นมาร่วมสังสรรค์กันที่ใต้ถุนบ้านของเศรษฐีคู่นี้พวกเขาช่วยกันทำอาหารอร่อยๆทานมีเครื่องดื่มเล็กๆน้อยๆเปิดเพลงฟังเต้นรำเล่นไพ่กันแบบสนุกๆไม่จริงจังอะไรสลับกับเล่าเรื่องชวนหัวเราะ เย็นวันเสาร์วันหนึ่งขณะที่คุณป้าแม่บ้านกับเพื่อนๆกำลังสนุกสนานกันอยู่ทันใดนั้นประตูห้องก็เปิดออกเป็นเจ้านายของเธอนั่นเองพลางกวักมือเรียกให้เธอมาหานายหญิงบอกกับเธอว่าเขาทั้งสองไม่ต้องการมารบกวนอะไรเธอดีใจที่เธอและเพื่อนต่างสนุกสนานร่าเริงมีความสุขเขาทั้งสองเพียงแต่อยากมาดูอย่างเงียบๆเพราะรู้สึกเหงาๆอย่างไรชอบกล…คุณป้าแม่บ้านอดรู้สึกเศร้าใจไม่ได้ที่เห็นเจ้านายของเธอแม้จะมีบ้านใหญ่โตมีสระว่ายน้ำรถยนต์หลายคันมีสวนใหญ่หน้าบ้านฯลฯแต่ไม่มีความสุขเหมือนกับเธอและเพื่อนๆ […]

อ่านต่อ

2019-02-10 ข้อคิดอาทิตย์ที่ 5 เทศกาลธรรมดา ปี C

ข้อคิดอาทิตย์ที่ 5 เทศกาลธรรมดาปีC ลก5: 1-11…โปรดไปจากข้าพเจ้าเสียเถิดพระเจ้าข้าเพราะข้าพเจ้าเป็นคนบาป…แต่เมื่อพวกสาวกนำเรือกลับถึงฝังแล้วก็ละทิ้งทุกสิ่งติดตามพระเยซูเจ้า… นักบุญทุกท่านต่างก็มีจิตสำนึกถึงความเป็นคนบาปของตนและนี่แหละที่ทำให้พวกท่านวางใจในพระหรรษทานของพระเจ้ามากกว่าในพลังความสามารถของตัวเอง…ในขณะที่ความเป็นคนบาปของเรากดเราให้ต่ำลงก็ขออย่าให้จิตใจของเราตกต่ำหดหู่ตามไปด้วยหรืออาจจะทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่ในกลุ่มศิษย์ของพระเยซูเจ้า…พระองค์ได้เสด็จมาเพื่อช่วยเราให้เอาชนะบาปและความไม่ดีต่างๆในตัวเราดังนั้นให้เราได้เข้าไปหาพระองค์ด้วยความเชื่อมั่นและสารภาพผิดต่อพระองค์เพื่อว่าพระองค์จะได้ชำระจิตใจของเราให้สะอาดบริสุทธิ์ ข้อคิด…ทะเลสาบเยนเนซาเรทมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าทะเลสาบกาลิลีหรือทะเลสาบตีเบเรียสและผู้ที่ทำมาหากินบนฝั่งของทะเลสาบก็จะใช้เรือและอวนเพื่อหาปลาในทะเลสาบเป็นการยังชีพของตัวเองเช่นเดียวกับในกรณีของอัครสาวกรุ่นแรกๆของพระเยซูเจ้า …บทอ่านทั้งสามบทของวันอาทิตย์นี้สื่อเนื้อหาสาระด้วยเรื่องเดียวกันคือเรื่องของ“กระแสเรียก” ซึ่งจะได้รับไปพร้อมๆกับ“พันธกิจ”และ“การเผยแสดงองค์ของพระเจ้า” ซึ่งเกี่ยวข้องกันเป็นอย่างมาก […]

อ่านต่อ

2019-03-03 ข้อคิดอาทิตย์ที่ 8 เทศกาลธรรมดา ปี C

  ข้อคิดอาทิตย์ที่ 8 เทศกาลธรรมดาปี C ลก6: 39-45…คนนำทางตาบอดย่อมไม่สามารถนำทางคนอื่นได้…และปากย่อมกล่าวสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมา… พระวรสารในวันนี้พูดถึงความรักต่อเพื่อนพี่น้องที่ใช้ชีวิตอยู่กับเราแน่นอนคนเราไม่สามารถรับหน้าที่นำคนอื่นเว้นแต่ตนเองจะรู้จักทิศทางที่จะต้องเดินไปแล้วเท่านั้นดังนั้นก่อนที่เราจะแนะนำหรือวิจารณ์คนอื่นก็ขอให้เราได้แนะนำตัวเองวิจารณ์ตนเองและทำก่อนเป็นคนแรกเสียก่อน…ต้นไม้พันธุ์ดีย่อมให้ผลที่ดีและคนดีย่อมนำสิ่งที่ดีออกจากขุมทรัพย์ที่ดีในใจของตน ข้อคิด…พระเยซูเจ้าทรงบอกพวกเราว่าเป็นการง่ายที่เราจะมองเห็นความอ่อนแอและข้อบกพร่องของผู้อื่นโดยทั่วๆไปคนเรามักจะสร้างกำแพงเพื่อป้องกันการมองเห็นตนเองและเราแต่ละคนมีเศษไม้อยู่ในตาของเราซึ่งปิดบังมิให้เรามองเห็นข้อบกพร่องของตนเองเราอาจจะมองไม่เห็นความจริงเกี่ยวกับตัวเราเองในขณะที่คนอื่นๆที่อยู่กับเราหรือทำงานร่วมกับเราเขามองเห็นอย่างชัดเจนและรู้ว่าเราเป็นคนเช่นใด ครั้งหนึ่งมีฤาษีหนุ่มรูปหนึ่งทำความผิดร้ายแรงบรรดาฤาษีชรารีบเรียกทุกคนมารวมกันเพื่อตัดสินเขาอย่างไรก็ตามที่ประชุมของบรรดาฤๅษีจะเริ่มขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีอธิการเข้าร่วมในการประชุมดังนั้นพวกเขาจึงส่งสารไปบอกท่านอธิการว่า“ให้ท่านรีบมาหมู่คณะกำลังรอท่านอยู่” ท่านอธิการมาถึงพร้อมกับตระกร้าเก่าๆใบหนึ่งที่มีรูท่านได้ใส่ทรายละเอียดไว้ในตะกร้าแล้วเริ่มเดินพร้อมกับถือตะกร้าใบนั้นมาด้วยแน่นอนว่าระหว่างทางเม็ดทรายก็ร่วงหล่นไปตลอดทางที่ท่านเดินไป […]

อ่านต่อ

2019-02-03 ข้อคิดอาทิตย์ที่ 4 เทศกาลธรรมดา ปี C

ข้อคิดอาทิตย์ที่ 4 เทศกาลธรรมดาปีC ลก4: 21-30…เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่าไม่มีประกาศกคนใดได้รับการต้อนรับอย่างดีในบ้านเมืองของตน… วันนี้นักบุญเปาโลบอกกับพวกเราว่าถ้าไม่มีความรักเราก็ไม่มีความสำคัญแต่อย่างใด…ความรักย่อมอดทนมีใจเอื้อเฟื้อไม่อิจฉาไม่จองหองไม่หยาบคายไม่จดจำความผิดที่ได้รับไม่เห็นแก่ตัวให้อภัยทุกอย่าง…และเราได้ปฏิบัติพระบัญญัติแห่งความรักอย่างไรบ้าง?…ให้เราได้ขออภัยโทษและขอพระองค์ได้โปรดชำระจิตใจของเราให้สะอาดบริสุทธิ์เพื่อจะร่วมในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณอย่างสมควร ข้อคิด…เมื่อพระเยซูเจ้าได้กลับไปยังบ้านเกิดของพระองค์ที่เมืองนาซาเร็ธประชาชนได้เชิญพระองค์ให้แสดงพระธรรมเทศนาในศาลาธรรมปฏิกิริยาแรกที่พวกเขามีต่อพระองค์ก็เป็นไปในทางบวกเพราะพวกเขารู้สึกประหลาดใจในคำพูดอันน่าอัศจรรย์ของพระองค์แต่ว่าไม่ช้าไม่เร็วความพิศวงของพวกเขาก็ได้กลับกลายเป็นความรู้สึกในทางลบเป็นความรู้สึกที่ต่อต้านและเป็นศัตรู…เพราะอะไรหรือ? คนส่วนใหญ่ยังเห็นพระเยซูเจ้าเป็นลูกชายของโยเซฟซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกันและพระองค์ก็น่าจะทำอะไรดีๆหรือทำอัศจรรย์ให้กับบ้านเกิดของตนก่อนที่จะไปทำให้กับที่อื่นพูดง่ายๆก็คือว่าความรักเมตตาควรจะเริ่มที่บ้านของตนเองเสียก่อนและชาวเมืองนาซาเร็ธน่าจะได้สิทธิพิเศษกว่าชาวเมืองอื่นๆ พระเยซูเจ้าอยากจะบอกกับพวกเขาว่าสิ่งที่สำคัญมิได้อยู่ที่ว่าพวกเขาเป็นใครแต่อยู่ที่ว่าพวกเขามีความเชื่อศรัทธาในพระเจ้าหรือเปล่า…ในพระอาณาจักรของพระเจ้าไม่มีที่ว่างสำหรับคนที่ต้องการสิทธิพิเศษความรักเมตตาของพระเจ้าเริ่มณที่ที่มนุษย์แสดงตนว่าต้องการพระองค์และเป็นความเชื่อที่เขาจะได้รับความรักเมตตาจากพระเจ้าในเรื่องนี้พระเยซูเจ้าได้ให้ตัวอย่างสองเรื่องด้วยกันคือการช่วยเหลือหญิงม่ายที่เมืองศาเรฟัทในเขตเมืองไซดอนของประกาศกเอลียาห์และการที่ประกาศกเอลีชาได้รักษานาอามันชาวเซีเรียให้หายจากโรคเรื้อนทั้งสองคนเป็นคนต่างศาสนา เมื่อได้ยินว่าผลประโยชน์ที่พวกเขายอมทิ้งไปนั้นเพราะการขาดความเชื่อศรัทธาในองค์พระเยซูเจ้าจะไปตกอยู่กับพวกคนต่างศาสนาพวกเขาก็รู้สึกโกรธเคืองพระองค์ขึ้นมาทันทีพระเยซูเจ้ากล้าอย่างไรที่จะบอกว่าพวกคนต่างศาสนาดีกว่าพวกตนซึ่งเป็นชาวยิวเป็นประชากรที่พระเจ้าเลือกสรรพวกเขาจึงได้ขับไล่พระองค์ออกจากเมืองและต้องการจะทำร้ายพระองค์ให้ตายโดยจะผลักพระองค์ให้ตกลงมาจากหน้าผา […]

อ่านต่อ

Posts pagination

1 … 34 35 36 … 68

เกี่ยวกับวัดฯ

  • ประวัติอาสนวิหาร
  • แม่พระอัสสัมชัญ
  • บรรณฐาน
  • สถาปัตยกรรม
  • กระจกสี
  • ภาษาลาตินในวัด

บริการต่างๆ

  • ล้างบาปทารก / Baptisms
  • แต่งงาน / Wedding
  • การขออนุญาตถ่ายภาพ

สารวัดย้อนหลัง

  • บทสนทนาจากเจ้าอาวาส
  • คิดสักนิด...สะกิดใจ...
  • ปลัดแก่ ซอย40
  • ปี 2012

บุคลากร/องค์กรต่างๆในวัด

  • พระสงฆ์
  • สำนักงานวัด
  • สภาภิบาล
  • นักขับร้อง
  • สโมสรเยาวชน

ลิงค์คาทอลิก

  • สภาสังฆราชคาทอลิกประเทศไทย
  • อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
  • หอจดหมายเหตุ อัครสังฆมณฑลฯ
  • สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย
  • ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025
Facebook-f Youtube