• หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us

Category: บทสนทนาจากเจ้าอาวาส

2017-03-05 ข้อคิดอาทิตย์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต ปี A

ข้อคิดอาทิตย์ที่ 1เทศกาลมหาพรตปีA มธ4: 1-11…พระเยซูเจ้าทรงอดอาหารสี่สิบวันสี่สิบคืนในถิ่นทุรกันดารและมารปีศาจมาทดลองพระองค์… เทศกาลมหาพรตเชิญชวนเราให้รำลึกถึงสี่สิบวันสี่สิบคืนที่องค์พระเยซูเจ้าได้ทรงใช้ในถิ่นทุรกันดารและในช่วงเวลานั้นมารร้ายได้เข้ามาทำการทดลองพระองค์แต่ว่าโดยอาศัยการอธิษฐานภาวนการจำศีลอดอาหารและความซื่อสัตย์ต่อพระวาจาของพระเจ้าพระองค์ได้เอาชนะมารผจญ…ทุกๆวันเราแต่ละคนต้องเผชิญกับมารผจญ…เราจึงต้องอธิษฐานภาวนาต่อพระเจ้าให้เราได้เอาชนะการผจญ ข้อคิด…โมเสสได้ขึ้นไปอยู่บนภูเขาซีนายเป็นเวลาสี่สิบวันเพื่อรับพระบัญญัติเช่นเดียวกันพระเยซูเจ้าทรงจำศีลอดอาหารสี่สิบวันสี่สิบคืนและทรงถูกมารปีศาจทดลองในถิ่นทุรกันดารก่อนจะเริ่มพระภารกิจของพระองค์…คริสตชนจึงควรเตรียมตัวเพื่อเฉลิมฉลองธรรมล้ำลึกแห่งปัสกาของการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูคริสตเจ้าด้วยเทศกาลมหาพรตแห่งการถือศีลอดอาหารใช้โทษบาปซึ่งจะยาวนานสี่สิบวันเช่นกัน ในบทอ่านที่หนึ่งเราได้ยินเรื่องราวของการผจญล่อลวงอาดัมและเอวาและในพระวรสารก็เป็นเรื่องราวที่พระเยซูเจ้าทรงถูกผจญ พระเยซูเจ้าทรงเป็นอาดัมคนใหม่…เพราะด้วยความนบนอบของพระองค์พระองค์ได้ทรงนำกลับคืนมาซึ่งพระพรต่างๆที่อาดัมคนแรกได้ทำให้สูญเสียไปเพราะความไม่นบนอบของตนและพระเยซูเจ้ายังทรงเป็นชาวอิสราแอลใหม่เช่นเดียวกับที่ชาวอิสราแอลดั้งเดิมถูกทดลองในถิ่นทุรกันดารและก็ไม่ซื่อสัตย์ส่วนพระองค์ยังคงซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า ในพระวรสารวันนี้นักบุญมัทธิวได้เล่าเรื่องการที่พระเยซูเจ้าทรงถูกมารปีศาจทดลองการทดลองพระเยซูเจ้านี้ประกอบด้วย3 ฉากด้วยกันซึ่งพระองค์ทรงต้องการที่จะแก้ความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับพระภารกิจของพระองค์ […]

อ่านต่อ

2017-03-12 ข้อคิดอาทิตย์ที่สอง เทศกาลมหาพรต ปี A

ข้อคิดอาทิตย์ที่สองเทศกาลมหาพรตปีA มธ17: 1-9…พระเยซูเจ้าทรงเปลี่ยนพระวรกายของพระองค์ต่อหน้าอัครสาวกทั้งสาม… แต่ละปีพิธีกรรมในอาทิตย์ที่สองของเทศกาลมหาพรตพระศาสนจักรก็จะนำเสนอเรื่องราวของการเปลี่ยนแปลงพระวรกายหรือการแสดงองค์ของพระเยซูเจ้า…พระพักตร์ของพระองค์เปล่งรัศมีดุจดวงอาทิตย์และฉลองพระองค์กลับมีสีขาวดุจแสงสว่าง…เราแต่ละคนก็สามารถมีประสบการณ์ของการเปลี่ยนแปลงตัวตนได้เหมือนกันเป็นพระหรรษทานและคุณธรรมที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงตัวเราให้มีสง่าราศรีเหมือนพระวรกายของพระเยซูเจ้าแต่ว่าบาปจะทำให้ตัวตนของเราเสียโฉม…ให้เราได้หันกลับมาหาองค์พระคริสตเจ้าสำหรับความช่วยเหลือต่างๆที่เราต้องการเพื่อว่าเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราให้ดีขึ้นเรื่อยๆด้วยการฝึกปฏิบัติคุณธรรม ข้อคิด…เช่นเดียวกับเรื่องราวการรับพิธีล้างของพระเยซูเจ้า…การเปลี่ยนพระวรกายของพระเยซูเจ้าต่อหน้าอัครสาวกก็เป็นการแสดงองค์ของพระเยซูเจ้าดังที่พระองค์ทรงเป็นจริงๆ…เป็นเหตุการณ์ที่ก่อประโยชน์อย่างมากให้กับบรรดาอัครสาวกคือเมื่อพวกเขาได้แลเห็นเกียรติมงคลอย่างของพระผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้วพวกเขาจะได้มีกำลังใจและความมุ่งมั่นที่จะติดตามพระองค์ไปจนถึงที่สุดแต่ถึงกระนั้นในขณะนี้พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีต้องรอจนกระทั่งพระเยซูเจ้าจะได้ทรงกลับคืนพระชนมชีพจริงๆแล้วเท่านั้น เรื่องราวของการประจักษ์พระวรกายของพระเยซูเจ้าต่อหน้าอัครสาวกนั้นเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนภูเขาสูง…เพราะบนภูเขาสามารถให้ทัศนียภาพที่กว้างไกลกว่าและจากบนภูเขาเราสามารถมองเห็นรายละเอียดของสิ่งต่างๆข้างล่างได้มากขึ้นซึ่งทำให้เราได้รู้จักและเข้าใจโลกมากขึ้นนอกจากนั้นยังช่วยยกจิตใจของเราขึ้นสู่เบื้องบนได้อีกด้วยทำให้เราอยู่ต่อหน้าความยิ่งใหญ่และความสวยงามของธรรมชาติซึ่งเป็นสิ่งสร้างของพระเจ้าและบนภูเขาสูงทำให้เรารู้สึกว่าตัวเราอยู่ใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้นอีกด้วยหรือกำลังอยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์ ประสบการณ์บนภูเขาสูงที่พระวรสารในวันนี้กล่าวถึงนั้นน่าจะเป็นภูเขาทาบอร์อันมีความหมายอย่างใหญ่หลวงสำหรับองค์พระเยซูเจ้าเองเพราะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญมากๆในชีวิตสาธารณะของพระองค์เป็นช่วงเวลาที่พระองค์กำลังเริ่มเดินทางไปกรุงเยรูซาเล็มเพื่อไปรับทรมานและสิ้นพระชนม์ที่ไม้กางเขน…พระองค์ทรงทราบดีว่าชะตากรรมที่ว่านั้นกำลังรอคอยพระองค์อยู่เหมือนกับที่ได้เกิดขึ้นกับบรรดาประกาศกก่อนหน้าพระองค์นั่นก็คือความตายที่รุนแรงและเพื่อที่จะใช้เวลาทำการไตร่ตรองและอธิษฐานภาวนาสำหรับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้พระองค์ได้ทรงขึ้นไปบนภูเขาสูงโดยนำเอานักบุญเปโตรยากอบและยอห์นให้ไปกับพระองค์ด้วย วันนั้นท้องฟ้าแจ่มใสทันทีที่พระเยซูเจ้าได้ขึ้นไปถึงยอดเขาพระองค์ก็ได้เริ่มอธิษฐานภาวนาทันใดพระพักตร์ของพระองค์ก็เปล่งรัศมีดุจดวงอาทิตย์ฉลองพระองค์กลับมีสีขาวดุจแสงสว่างโมเสสและประกาศกเอลียาห์แสดงตนสนทนาอยู่กับพระองค์…นักบุญเปโตรถึงกับกราบทูลพระเยซูเจ้าว่า“พระเจ้าข้าที่นี่สบายน่าอยู่จริงๆถ้าพระองค์มีพระประสงค์ข้าพเจ้าจะสร้างเพิงขึ้นสามหลังหลังหนึ่งสำหรับพระองค์หลังหนึ่งสำหรับโมเสสและอีกหลังหนึ่งสำหรับเอลียาห์”ขณะที่เปโตรกำลังพูดอยู่นั้นมีเมฆสว่างจ้าก้อนหนึ่งปกคลุมพวกเขาไว้อันเป็นสัญลักษณ์ของการประทับอยู่ของพระเจ้ามีเสียงหนึ่งอันเป็นเสียงของพระบิดาเจ้าดังออกมาจากเมฆนั้นเป็นพระวาจาที่น่ารักมาก…ว่า“ท่านผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเราเราพึงพอใจยิ่งนักจงฟังท่านเถิด” นักบุญเปโตรต้องการค้างอยู่บนภูเขานั้นเลยท่านต้องการสร้างกระโจมที่พักอยู่ที่นั่นเลยเป็นที่พำนักที่ปลอดจากภัยอันตรายและปัญหาทุกข์ร้อนทั้งหลายแต่ว่าจุดประสงค์ของประสบการณ์ที่ว่านี้มิใช่เพื่อให้หนีจากภัยอันตรายและปัญหาทุกข์ร้อนแต่ต้องการเสริมสร้างและเพิ่มพลังเข้มแข็งให้กับพระเยซูเจ้าและบรรดาศิษย์เพื่อให้พวกเขาเมื่อกลับลงไปจากบนภูเขาแล้วจะได้สามารถเผชิญหน้ากับปัญหาและภัยอันตรายต่างๆ แน่นอนพวกเขาคงจะต้องการพลังเข้มแข็งอีกมากมายเพราะวันนั้นจะมาถึงและจะมีภูเขาอีกลูกหนึ่ง…วันนั้นท้องฟ้าจะมืดมัวพระพักตร์ของพระเยซูเจ้าจะโชกไปด้วยเหงื่อและเลือดฉลองพระองค์ก็จะดูไม่ได้เอาเสียเลยและบรรดาศิษย์จะหนีจากพระองค์ไป…จะมีเฉพาะโจรสองคนซึ่งถูกตรึงพร้อมกับพระองค์ศิษย์ที่รักและสตรีใจศรัทธาอีกบางคนซึ่งอยู่เป็นเพื่อนพระองค์…จะไม่มีเสียงจากสวรรค์แต่จะมีแต่เสียงของผู้คนที่สบประมาทเยาะเย้ยพระองค์ที่เดินผ่านไปผ่านมาพวกศิษย์ก็จะหนีกระจัดกระจายกันไปคนละทิศคนละทางและไม่ต้องการรับรู้อะไรทั้งสิ้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพระอาจารย์ของพวกเขา […]

อ่านต่อ

2017-03-19 ข้อคิดอาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต ปี A

ข้อคิดอาทิตย์ที่3 เทศกาลมหาพรตปีA ยน4: 5-42…ผู้ที่ดื่มน้ำซึ่งเราจะให้นั้นจะไม่กระหายอีกเลยน้ำที่เราจะให้แก่ทุกคนจะกลายเป็นธารน้ำในตัวเขาไหลรินเพื่อชีวิตนิรันดร… ในพระวรสารของวันนี้เราจะได้ยินเรื่องราวของการพบปะกันที่น่าประทับใจระหว่างพระเยซูเจ้ากับหญิงชาวสะมาเรีย…ระหว่างการสนทนานั้นพระเยซูเจ้าได้ทรงบอกกับนางถึงพระพรที่พระเจ้าทรงอยากประทานให้กับนาง…พระพรซึ่งพระองค์ทรงเรียกว่า“น้ำทรงชีวิต”…ณบัดนี้ที่พระแท่นบูชานี้เราก็ได้รับข้อเสนอจากองค์พระเยซูคริสตเจ้าเพื่อรับพระพรอย่างเดียวกัน…ดังนั้นขอให้เราได้ทำตัวของเราให้สมที่จะรับ“พระพรของพระเจ้า” ด้วยการยอมรับว่าเราเป็นคนบาป ข้อคิด…หัวข้อเดียวที่แทรกซึมอยู่ในทั้งสามบทอ่านของพิธีบูชาขอบพระคุณในวันนี้ก็คือพระเจ้าทรงรักเราแม้ในขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่ ในขณะที่ชนชาวอิสราแอลกำลังเร่ร่อนอยู่ในถิ่นทุรกันดารโมเสสได้จัดหาน้ำให้กับพวกเขาพระเยซูเจ้าเองซึ่งเป็นโมเสสคนใหม่ได้ให้อะไรอะไรบางอย่างที่ดีกว่าแก่เรามนุษย์คือ“น้ำที่ให้ชีวิต” เพราะจะทำให้ผู้ที่ดื่มน้ำนี้มีส่วนในชีวิตพระ ในบทอ่านที่หนึ่ง(อพย17: […]

อ่านต่อ

2017-03-26 ข้อคิดอาทิตย์ที่ 4 เทศกาลมหาพรต ปี A

ข้อคิดอาทิตย์ที่ 4 เทศกาลมหาพรตปีA ยน9: 1-41…คนตาบอดจึงไปล้างตาแล้วกลับมามองเห็นได้…           ในโลกของเราทุกวันนี้มีความมืดอยู่มากมายอย่างน่าใจหาย…แต่ว่าพระวรสารของวันนี้ได้นำเสนอพระวาจาอันน่าอัศจรรย์ขององค์พระคริสตเจ้า“เราเป็นแสงสว่างส่องโลก”…พระคริสตเจ้าทรงเป็นแสงสว่างส่องโลกจริงๆและทรงเป็นแสงสว่างส่องชีวิตของเรา…ให้เราทำการไตร่ตรองสักครู่หนึ่งว่าเรามีความต้องการแสงสว่างของพระองค์ที่จะส่องสว่างชีวิตของเราแต่ละคนเพื่อเราจะได้ไปส่องสว่างโลกมากน้อยแค่ไหน… ข้อคิด…เช่นเดียวกับน้ำ…แสงสว่างก็เป็นสัญลักษณ์ขั้นพื้นฐานอย่างหนึ่งของการดำรงชีวิตอยู่ของมนุษย์และของการไตร่ตรองทางศาสนาด้วย…ในเรื่องเล่าการสร้างโลกในหนังสือปฐมกาลเมื่อพระเจ้าได้แยกความสว่างออกจากความมืดพระองค์ก็ได้ทรงจัดระเบียบให้กับสากลจักรวาลให้เป็นที่พักอาศัยของทั้งสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต           และเมื่อวาระแห่งความสมบูรณ์ของกาลเวลามาถึงพระวจนาตถ์พระบุตรพระเจ้าก็ได้เสด็จลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์และมีชีวิตอยู่ท่ามกลางเรามนุษย์พระองค์ทรงเป็นชีวิตและแสงสว่างของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายพระองค์ทรงส่องสว่างผู้ที่เชื่อในพระองค์ด้วยชีวิตและข่าวดีของพระเจ้าซึ่งทำให้เรามนุษย์ได้รู้จักพระเจ้าพระบิดา…นี่เป็นหัวข้อใหญ่ๆที่สำคัญที่ได้รับการพัฒนาในข่าวดีที่นักบุญยอห์นผู้นิพนธ์พระวรสารนำเสนอให้กับพวกเราโดยเริ่มตั้งแต่บทแรกอันเป็นอารัมภบทของพระวรสารของท่านและได้รับการขยายความอย่างเป็นขั้นเป็นตอนโดยอาศัยเครื่องหมายและการอัศจรรย์ต่างๆที่พระองค์ได้ทรงกระทำซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนทั้งทาง“บวก” […]

อ่านต่อ

2017-04-02 ข้อคิดอาทิตย์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต ปี A

ข้อคิดอาทิตย์ที่ 5 เทศกาลมหาพรตปีA ยน11: 1-45…เราเป็นการกลับคืนชีพและเป็นชีวิตใครเชื่อในเราแม้ตายไปแล้วก็จะมีชีวิตและทุกคนที่มีชีวิตและเชื่อในเราจะไม่มีวันตายเลย… ในพระวรสารของวันนี้เราเห็นภาพอันเป็นที่คุ้นเคยกับเราอย่างมากๆนั่นก็คือผู้คนกำลังร่ำไห้ถึงการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของผู้เป็นที่รัก…พระเยซูเจ้าทรงเป็นจุดสนใจของภาพที่ว่านี้เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้ที่ให้ความหวังแก่คนที่มาอยู่รอบๆเหตุการณ์นี้เพื่อสังเกตุดูเหตุการณ์ดังกล่าว ข้อคิด…จุดประสงค์ของพระวรสารของนักบุญยอห์นที่พระศาสนจักรนำเสนอให้เราได้ยินได้ฟังในวันอาทิตย์นี้ก็คือท่านนักบุญพยายามที่จะนำออกจากผู้อ่านซึ่งความเชื่อในองค์พระเยซูคริสตเจ้าและเพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงประสิทธิผลของความเชื่อนั้นในพระองค์ด้วย…พระเยซูเจ้าตรัสกับผู้คนที่กำลังติดตามพระองค์ว่า”ลาซารัสตายแล้วเรายินดีสำหรับท่านทั้งหลายที่เราไม่ได้อยู่ที่นั่นเพื่อท่านจะได้เชื่อ”…และเรื่องราวของลาซารัสก็ได้จบลงด้วยคำพูดที่ว่า“ชาวยิวหลายคนที่มาเยี่ยมมารีย์และเห็นสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำก็เชื่อในพระองค์”…ในเรื่องเล่านี้มาร์ธาได้รับการนำเสนอให้เป็นรูปแบบของความเชื่อคือแม้จะมีความขัดแย้งอย่างเห็นได้ชัดจากพระวาจาของพระเยซูเจ้าที่บอกว่าลาซารัสเพื่อนของเรากำลังหลับอยู่กับความเป็นจริงที่ปรากฏแก่สายตาว่าลาซารัสนได้ตายไปแล้วแต่มาร์ธาก็ได้ทำการยืนความเชื่อของเธอที่มีต่อพระเยซูเจ้าได้อย่างน่าอัศจรรย์ว่า“เชื่อพระเจ้าข้าดิฉันเชื่อว่าพระองค์เป็นพระคริสตเจ้าพระบุตรของพระเจ้าที่จะต้องเสด็จมาในโลกนี้”    พระเยซูเจ้าทรงเป็นท่อธารแห่งชีวิตมิใช่เฉพาะสำหรับชีวิตทางกายภาพเท่านั้นแต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับชีวิตอมตะหรือชีวิตที่ไม่รู้จักตายแบบของพระเจ้าด้วยชีวิตใหม่ที่ว่านี้มิใช่เป็นเพียงแต่ความหวังของอนาคตเท่านั้นแต่ยังเป็นความเป็นจริงที่เป็นปัจจุบันซึ่งความตายทางกายภาพมิอาจจะปฏิเสธได้คำพูดที่เป็นกุญแจสำคัญสำหรับเรื่องเล่าการกลับเป็นขึ้นมาจากความตายของลาซารัสอยู่ที่พระวาจาของพระเยซูเจ้าที่ว่า“เราเป็นการกลับคืนชีพและชีวิต”…การมาหามาร์ธาและมารีย์อย่างชักช้าของพระเยซูเจ้ารวมทั้งข้อเท็จจริงที่ว่าลาซารัสได้ตายไปสี่วันแล้วนั้นเพื่อที่จะเป็นการเน้นย้ำจุดที่ผู้นิพนธ์พระวรสารต้องการคือ“พระเยซูเจ้าทรงเป็นเจ้านายแห่งชีวิตและความตาย” ความเศร้าโศกเพราะการต้องสูญเสียพี่ชายของมาร์ธาและมารีย์นั้นเป็นประสบการณ์ที่พวกเราหลายๆคนได้มีอยู่อันเนื่องมาจากการต้องสูญเสียคนที่เรารักไปและเมื่อมีอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับตัวเราหรือว่าเกิดขึ้นกับคนที่เรารักเราก็มักจะอดคิดไม่ได้ว่าถ้าหากพระเจ้าดูแลเอาใจใส่เราจริงๆแล้ไซร้ถ้าหากพระองค์รักเราจริงๆแล้วพระองค์ก็คงจะไม่อนุญาตให้สิ่งที่เราคิดว่าไม่ดีเกิดขึ้นกับตัวเราหรือกับคนที่เรารักเพราะเมื่อเป็นเช่นนั้นเรามักจะรู้สึกว่าพระเจ้าได้ทรงทอดทิ้งเราเรารู้สึกตัวเราว่าต้องอยู่โดดเดี่ยวไม่มีที่พึ่ง ดังนั้นเราควรจะต้องทำอะไร? […]

อ่านต่อ

2017-04-09 ข้อคิดอาทิตย์(ใบลาน)พระทรมานของพระเยซูคริสตเจ้า ปี A

ข้อคิดอาทิตย์(ใบลาน)พระทรมานของพระเยซูคริสตเจ้าปีA มธ26: 14-27. 66…พระบิดาเจ้าข้าถ้าเป็นไปได้ขอให้ถ้วยนี้พ้นข้าพเจ้าไปเถิดถ้าเป็นไปไม่ได้ก็ขออย่าให้เป็นไปตามใจข้าพเจ้าแต่ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์เถิด… วันนี้เราเริ่มต้นอาทิตย์ศักดิ์สิทธิ์ด้วยการรำลึกถึงพระมหาทรมานและการสิ้นพระชนม์ขององค์พระเยซูคริสตเจ้าพระผู้ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพราะบาปของมนุษยชาติ…ให้เราได้หยุดไตร่ตรองสักครู่หนึ่งพลางคิดถึงบาปของเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งบาปที่เป็นการทำร้ายเพื่อนพี่น้องของเรา ข้อคิด…วันอาทิตย์พระมหาทรมานขององค์พระเยซูเจ้าหรือวันอาทิตย์ใบลานเป็นวันฉลองที่ไม่ได้กำหนดตายตัวว่าต้องเป็นวันเดียวกันของทุกๆปีของศาสนาคริสต์แต่จะเป็นวันอาทิตย์หนึ่งสัปดาห์ก่อนวันอาทิตย์ปัสกาวันฉลองนี้เชิญชวนให้เราได้รำลึกถึงเหตุการณ์หนึ่งซึ่งได้มีเล่าไว้ในพระวรสารทั้งสี่คือมก11: 1-11, มธ21: 1-11, ลก19: […]

อ่านต่อ

2017-04-16 วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์

วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์    วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์(Holy Saturday/Sabbatum Sanctum) เป็น“วันที่พระเยซูเจ้าทรงถูกฝังไว้ในคูหา” และเป็น“วันแห่งการพักผ่อนของพระคริสตเจ้า” เพราะในวันนั้นพระศพของพระองค์ทรงถูกวางไว้ในคูหาและในวันนี้เราคงคิดถึงคำภาวนาในบท“สัญลักษณ์ของอัครสาวก/ข้าพเจ้าเชื่อ”ที่อธิษฐานภาวนาว่า“(พระเยซูเจ้า)เสด็จสู่แดนมรณะ”…วันนี้เป็นวันที่โลกทั้งสองโลกคือโลกแห่งความมืดโลกแห่งบาปและโลกแห่งความตายกับโลกแห่งการกลับคืนชีพและโลกแห่งการปฏิสังขรณ์ไปสู่อาณาจักรแห่งความสว่าง   ต่างก็หยุดทำกิจกรรมของตนเองด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้จึงในวันนี้พระศาสนจักรไม่ให้มีพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ใดๆทั้งสิ้นจนถึงพิธีตื่นเฝ้าในค่ำคืนวันปัสกาคือค่ำคืนวันนี้…วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์นี้ซึ่งอยู่ระหว่างวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์และวันอาทิตย์ปัสกาได้บอกเราถึงการสิ้นสุดของโลกๆหนึ่งและการเกิดใหม่ของอีกโลกหนึ่งอันได้รับการสถาปนาขึ้นด้วยการเสด็จกลับคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้า วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์น่าจะเป็นวันที่เงียบที่สุดของปีเลยทีเดียวแต่เมื่อพระอาทิตย์ตกดินแล้วก็จะเป็นช่วงเวลาของความชื่นชมยินดีและการรอคอยครั้งยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดอันเนื่องมาจากความงดงามของพิธีกรรมของการตื่นเฝ้าปัสกาซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น“มารดาของการตื่นเฝ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย”หรือเป็น“พิธีกรรมอันยิ่งใหญ่แห่งความสว่าง” เหมือนกับเมล็ดพืชในดินที่รอจังหวะเวลาโผล่ขึ้นมาจากดินเป็นต้นอ่อนพระเยซูเจ้าที่พักผ่อนอยู่ในคูหาก็รอเวลาที่จะกลับคืนพระชนมชีพ […]

อ่านต่อ

2017-04-23 ข้อคิดอาทิตย์ที่ 2 เทศกาลปัสกา ปี A

ข้อคิดอาทิตย์ที่ 2 เทศกาลปัสกาปีA      ยน20:19-31…โทมัสตอบว่า“ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้เห็นรอยตะปูที่พระหัตถ์และไม่ได้เอานิ้วแยงเข้าไปที่รอยตะปูและไม่ได้เอามือคลำที่ด้านข้างพระวรกายของพระองค์ข้าพเจ้าจะไม่เชื่อเป็นอันขาด”… วันอาทิตย์นี้เราพบกับนักบุญโทมัสคนขี้สงสัยเราแต่ละคนต่างก็มีอะไรที่เหมือนๆกับของนักบุญโทมัสบ่อยๆเราก็รู้สึกยากลำบากกับความสงสัยที่เกิดขึ้นกับเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งสงสัยในความรักและในความเอาใจใส่ที่พระเจ้าทรงมีต่อเราแต่ละคนในชีวิตประจำวันแทนที่เราจะไม่ยอมรับความสงสัยนี้ก็ขอให้เราได้นำเอาความสงสัยนี้มาวางไว้ณแทบพระบาทขององค์พระเยซูเจ้าพลางทูลพระองค์ด้วยคำกล่าวของนักบุญโทมัสว่า“องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าและพระเจ้าของข้าพเจ้า”       […]

อ่านต่อ

2017-04-30 ข้อคิดอาทิตย์ที่ 3 เทศกาลปัสกา ปี A

ข้อคิดอาทิตย์ที่ 3 เทศกาลปัสกาปีA          ลก24: 13-35…พวกเขาตาสว่างและจำพระองค์ได้เมื่อพระองค์ทรงบิขนมปังและยื่นให้เขา… เรื่องเล่าที่น่ารักที่สุดเรื่องหนึ่งของพระวรสารน่าจะเป็นเรื่องที่เล่าถึงพระผู้ได้ทรงเสด็จกลับคืนพระชนมชีพซึ่งได้เข้ามาร่วมเดินทางกับศิษย์สองคนที่กำลังมุ่งไปยังหมู่บ้านเอ็มมาอูสพระองค์ได้ทรงอธิบายพระวรสารให้พวกเขาฟังและได้ทรงเผยแสดงพระองค์เองในการบิขนมปัง…เรื่องราวเดียวกันก็ได้เกิดขึ้นสำหรับพวกเราเมื่อเรามาสมโภชพิธีบูชาขอบพระคุณขององค์พระเยซูเจ้า…พระองค์ทรงพูดกับพวกเราในพระคัมภีร์และทรงเลี้ยงดูเราในศีลมหาสนิท […]

อ่านต่อ

2017-11-12 ข้อคิดอาทิตย์ที่ 32 เทศกาลธรรมดา ปี A

ข้อคิดอาทิตย์ที่ 32 เทศกาลธรรมดา ปี A มธ 25: 1-13…เจ้าบ่าวมาแล้ว จงออกไปต้อนรับกันเถิด… คริสตชนทุกคนเปรียบเสมือนคนถือตะเกียงที่ส่องแสงสว่างของพระคริสตเจ้า […]

อ่านต่อ

Posts pagination

1 … 39 40 41 … 65

เกี่ยวกับวัดฯ

  • ประวัติอาสนวิหาร
  • แม่พระอัสสัมชัญ
  • บรรณฐาน
  • สถาปัตยกรรม
  • กระจกสี
  • ภาษาลาตินในวัด

บริการต่างๆ

  • ล้างบาปทารก / Baptisms
  • แต่งงาน / Wedding
  • การขออนุญาตถ่ายภาพ

สารวัดย้อนหลัง

  • บทสนทนาจากเจ้าอาวาส
  • คิดสักนิด...สะกิดใจ...
  • ปลัดแก่ ซอย40
  • ปี 2012

บุคลากร/องค์กรต่างๆในวัด

  • พระสงฆ์
  • สำนักงานวัด
  • สภาภิบาล
  • นักขับร้อง
  • สโมสรเยาวชน

ลิงค์คาทอลิก

  • สภาสังฆราชคาทอลิกประเทศไทย
  • อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
  • หอจดหมายเหตุ อัครสังฆมณฑลฯ
  • สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย
Facebook-f Youtube