สวัสดีครับ
สัปดาห์ละครั้ง 30 มิ.ย. 2013
“AEC” ย่อมาจาก Asean Economics Communityหมายถึง ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ตามที่เราทราบกันแล้วว่า ในปี พ.ศ. 2558 10 ประเทศในอาเซียน อันประกอบด้วย ไทย ลาว พม่า เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ กัมพูชา บรูไน และฟิลิปปินส์ จะมีการรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกันในเรื่องราวต่างๆ เป็นต้นในด้านการทำมาค้าขาย
สิ่งนี้ได้เกิดกระแสตื่นตัวกันพอสมควร ในทุกภาคส่วนก็ว่าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการปรับตัวของทุกประเทศ เรียกว่าทุกประเทศก็หวังผลประโยชน์สำหรับประเทศของตน มองว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศของตนได้รับประโยชน์มากที่สุด… ดังจะเห็นได้ว่ามีการจัดการอบรมสัมมนาเตรียมความพร้อมกันในทุกประเทศ และหัวข้อสัมมนาที่นำมาพูดกันมากที่สุดคือ “เราจะได้อะไรจาก AEC”ยังไม่เห็นมีประเทศไหนสัมมนาเรื่อง “เราจะให้อะไรกับ AEC”เลย หรือถ้าจะพูดง่ายๆ ก็คือ มีแต่คิดว่าจะเอาอะไรจาก AECแต่ไม่มีใครให้ แล้วจะเอามาจากไหนกันก็ไม่รู้… อันนี้ผมก็คิดของผมเองนะครับ จะถูกจะผิดคิดต่อเอาเองแล้วกัน
แต่สิ่งที่ผมอยากจะแสดงความคิดเห็นวันนี้ ก็คือ เขามีการเตรียมความพร้อมกันอย่างเต็มที่ ทางด้านธุรกิจ การค้า การลงทุน… แต่ยังไม่เคยเห็นใครพูดถึงการที่คนหลายชาติ หลายภาษา หลายประเพณี วัฒนธรรมและความเชื่อในศาสนา จะต้องมาติดต่อสัมพันธ์กันใกล้ชิดมากขึ้น ว่าจะต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง เห็นที่เน้นกันหน่อย ก็ตรงภาษาอังกฤษที่บอกว่าต้อง พูดและฟังกันให้ได้ เพื่อสื่อสารติดต่อกัน
การที่คนจากหลากหลายเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ซึ่งต่างความรู้สึกนึกคิด ความเชื่อถือ จะมารวมกันได้นั้น มิใช่เรื่องง่ายๆ และต้องถือว่าเป็นเรื่องมาอันดับแรกๆ ด้วยซ้ำไป เพราะถ้าไม่เข้าใจกัน ไม่รู้จักนิสัยใจคอ ประเพณี… ของกันและกันแล้ว เรื่องอื่นๆ น่าจะลำบาก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การค้า การลงทุน จะเกิดผลได้แค่ไหน?
ดังนั้น ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งหลายในสังคม ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือเอกชน จะต้องหันมาดูแลเรื่องนี้ให้ดี… เพราะการยอมรับ ความเข้าใจที่ดีต่อกัน มิตรภาพที่จริงใจเป็นที่มาของสันติสุข และความเป็นหนึ่งเดียวกันเป็นพื้นฐานที่จะก่อให้เกิดความร่วมมือกันในทุกด้าน… หนที่สุดแล้วอยากจะบอกว่า อย่ามองกันเพียงเรื่องเศรษฐกิจการค้า จนลืมเรื่องวิถีชีวิต และจิตใจที่จะต้องปรับให้ดีๆ ด้วยเหมือนกัน …สวัสดีครับ