• หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us

Category: คิดสักนิด…สะกิดใจ

2018-04-15 ประเพณีรดน้ำดำหัว

แทนคิดสะนิด…สะกิดใจ ประเพณีรดน้ำดำหัว ประเพณีรดน้ำดำหัวเป็นพิธีต่อเนื่องจากวันสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ของไทยเป็นประเพณีที่แสดงถึงความเคารพนบน้อบต่อบิดามารดาผู้ใหญ่หรือผู้มีพระคุณเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีของผู้น้อยและขอขมาลาโทษที่ผู้น้อยอาจเคยล่วงเกินผู้ใหญ่อีกทั้งเป็นการขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองตลอดไปตั้งแต่วันแรกของการเริ่มประเพณีสงกรานต์จนถึงวันสุดท้ายของสงกรานต์       คำว่ารดน้ำดำหัวเป็นคำพูดของชาวเหนือที่จะไปรดน้ำขอขมา(ขอโทษ) ผู้ใหญ่และขอพรจากผู้ใหญ่ที่ตนเคารพนับถือซึ่งจะมีการอาบน้ำจริงๆคืออาบทั้งตัวและดำหัวคือสระผมด้วยสิ่งที่ใช้สระผมก็จะเป็นน้ำส้มป่อยหรือน้ำมะกรูด         การดำหัวในความหมายทั่วไปของชาวล้านนาไทยนั้นหมายถึงการ“สระผม” แต่ในพิธีกรรมโดยเฉพาะในเทศกาลสงกรานต์ของทุกๆปีหมายถึงการชำระสะสางสิ่งอันเป็นอัปมงคลในชีวิตให้วิปลาสปราดไปด้วยการใช้น้ำส้มป่อยเป็นเครื่องชำระจึงใช้คำว่าดำหัวมาต่อท้ายคำว่ารดน้ำซึ่งมีความหมายคล้ายกันกลายเป็นคำซ้อนคำว่า“รดน้ำดำหัว” ประเพณีรดน้ำดำหัวถือว่าเป็นประเพณีที่ดีงามอีกประเพณีหนึ่งที่ประชาชนชาวไทยถือปฏิบัติสืเวลาที่ยาวนานซึ่งการรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุหรือญาติผู้ใหญ่บุคคลผู้ที่ตนให้ความเคารพนับถือการรดน้ำดำหัวนั้นจะเป็นการขอโทษขออภัยซึ่งกันและกันที่เคยล่วงเกินกันในปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นการล่วงเกินทางกายล่วงเกินทางวาจาหรือว่าการล่วงเกินทางใจทั้งที่ตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจต่อหน้าหรือว่าลับหลังก็ตามประเพณีรดนำดำหัวหรือบางครั้งก็เรียกว่าประเพณีปีใหม่เมืองจะมีในระหว่างวันที่13-15 เดือนเมษายนของทุกปีหรือวันสงกรานต์นั่นเอง      ประเพณีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่จะกระทำกันในวันสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์เพียงวันเดียวหรือวันเถลิงศกนั่นเองแต่การรดน้ำดำหัวพระสงฆ์นั้นจะมีลักษณะคล้ายๆกันแต่พิธีการรดน้ำดำหัวพระสงฆ์จะมีพิธีการมากกว่าคือก่อนที่จะรดน้ำพระสงค์จะต้องรดน้ำพระพุทธรูปก่อนแล้วจึงค่อยรดน้ำดำหัวพระภิกษุสงฆ์จากนั้นก็รับพรจากพระภิกษุสงฆ์พอเสร็จพิธีก็จะมีการเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานและการรดน้ำดำหัวพระภิกษุนั้นจะทำทุกวัน  ประเพณีรดน้ำดำหัว เป็นสิ่งที่ทำต่อเนื่องกันมายาวนานในปีใหม่ไทย เป็นการแสดงความเคารพและความกตัญญูต่อบิดามารดา […]

อ่านต่อ

2018-03-25 อาทิตย์พระมหาทรมาน

สวัสดีพี่น้องที่รักอาทิตย์นี้เราเข้าสู่อาทิตย์ใบลานหรือ อาทิตย์พระมหาทรมานอาทิตย์ในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นด้วยการเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่าของพระเยซูเจ้า พิธีกรรมวันนี้จะเริ่มต้นด้วยการเข้าอย่างผู้ชนะของพระเยซูคริสตเจ้าผู้ทรงเป็นกษัตริย์ด้วยการเสกใบลานและการแห่ใบลานอย่างสง่าด้วยความชื่นชมยินดีแล้วหลังจากนั้นเราก็จะได้ยินเรื่องราวพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าที่เพิ่งได้รับการต้อนรับเยี่ยงกษัตริย์แต่กลับทรงถูกเฆี่ยนตีสบประมาทถูกตรึงและสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระวรสารในอาทิตย์ใบลานนี้จะยาวมากและเมื่ออ่านจบแล้วพระสงฆ์จะไม่มีการกล่าวคำว่า“นี่คือพระวาจาของพระเจ้า”แต่ทุกอย่างจบลงแบบเงียบๆเพื่อให้สัตบุรุษได้สะท้อนเรื่องราวพระมหาทรมานที่เพิ่งได้ยินไปซึ่งพระสงฆ์อาจจะเทศน์สั้นๆก็ได้เพื่อให้แต่ละคนได้เข้าใจความหมายที่แท้จริงสำหรับพันธกิจการไถ่กู้ของพระคริสตเจ้าและความรักของพระเจ้าที่ทรงมีต่อมนุษย์ว่าความตายของพระองค์นี้มิใช่เป็นความพ่ายแพ้หรือเป็นเพราะผลจากการเมืองแต่ความตายของพระองค์นี้คือชัยชนะที่มีเหนือบาปและความตายรวมทั้งยังเป็นรอดพ้นฝ่ายวิญญาณสำหรับมนุษยชาติ การเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่าในฐานะกษัตริย์และพระแมสิยาห์ในพิธีกรรมวันนี้ช่วยทำให้เราพบความจริงของพระเยซูเจ้าว่าพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์พระแมสสิยาห์และลูกแกะของพระเจ้า ในฐานะกษัตริย์: การประทับบนหลังลาที่มีผ้าปูหลังและบรรดาประชาชนต้อนรับพระองค์ด้วยกิ่งปาล์มคือการเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มในฐานะกษัตริย์ของพระเยซูเจ้า(1 มคบ13:51) เพราะลาเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพและความสุภาพ  ซึ่งโดยปกติกษัตริย์จะทรงม้านำทหารสู้ศึกสงครามแต่เมื่อได้รับชัยชนะและนำความสงบสุขสู่บ้านเมืองกษัตริย์จะทรงประทับบนหลังลาเข้าเมืองอย่างผู้มีชัยพระเยซูเจ้าก็ทรงเป็นกษัตริย์ที่เข้าเมืองอย่างผู้มีชัยเช่นกันแต่พระองค์มิใช่กษัตริย์ที่มาปลดปล่อยพวกเขาจากการกดขี่ทางการเมืองแต่ทรงเป็นองค์สันติราชาที่นำความชื่นชมยินดีและสันติสุขภายในจิตใจมาสู่มนุษยชาติ […]

อ่านต่อ

2018-03-18 อาทิตย์สุดท้ายของเทศกาลมหาพรต

      สวัสดีครับพี่น้องที่รักพบกันอีกครั้งในอาทิตย์ที่5 อาทิตย์สุดท้ายของเทศกาลมหาพรตก่อนเข้าสู่สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์อาทิตย์แห่งพระมหาทรมานซึ่งจะเริ่มต้นด้วยวันอาทิตย์แห่ใบลาน(25 มี.ค. 2018) อาทิตย์ที่พระเยซูเจ้าทรงเสด็จเข้ากรุงเยรูซาแล็มอย่างสง่าเพื่อไปรับความตายและทำให้มนุษย์ทุกคนได้รับความรอดพ้นด้วยการหลั่งพระโลหิตเพื่อไถ่บาปมนุษย์ทุกคน สำหรับในอาทิตย์นี้ในพระวรสารบอกให้เราทราบว่ามีผู้คนจำนวนมากที่ขึ้นไปนมัสการพระเจ้าที่กรุงเยรูซาเล็มในงานฉลองนั้นมีชาวกรีกบางคนรู้สึกประทับใจในพระเยซูเจ้าพวกเขาจึงไปหาฟิลิปและบอกกับท่านว่า“ท่านครับพวกเราอยากเห็นพระเยซูเจ้า”พระเยซูเจ้าจึงได้ใช้โอกาสนี้อธิบายว่า“พระองค์เป็นใคร?”โดยพระองค์ทรงประกาศว่าพระองค์คือพระผู้ไถ่หรือบุตรแห่งมนุษย์ที่จะต้องถูกยกขึ้นบนไม้กางเขนเพื่อทำให้พระบิดาได้รับพระสิริรุ่งโรจน์และเวลาแห่งพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ใกล้จะมาถึงแล้ว นอกจากนั้นพระองค์ยังสอนเราว่าวิธีการที่จะการรู้จักกับพระองค์ได้ดีที่สุดก็คือการมีชีวิตแบบพระเยซูเจ้าด้วยการตายต่อตัวเราเองและยอมตายจริงๆเพราะ“ถ้าเมล็ดข้าวไม่ตกลงดินและตายไปมันก็จะเป็นเพียงเมล็ดเดียวเท่านั้นแต่ถ้ามันตายมันก็จะบังเกิดผลมากมาย  […]

อ่านต่อ

2018-03-04 การชำระพระวิหาร

          สวัสดีครับพี่น้องที่รักพบกันอีกครั้งในอาทิตย์ที่3 ของเทศกาลมหาพรตกับพระวรสารเรื่อง“การชำระพระวิหาร” วันนี้พระเยซูเจ้าทรงคว่ำโต๊ะแลกเงินเอาเชือกมาทำเป็นแส้และขับไล่บรรดาพ่อค้าให้ออกจากพระวิหารและทรงกล่าวว่า“จงนำของเหล่านี้ออกไป อย่าทำบ้านของพระบิดาของเราให้เป็นตลาด” เพราะพระวิหารหรือบ้านของพระเจ้าที่แท้จริงควรเป็นสถานที่แห่งการภาวนาการนมัสการและการขอคืนดีกับพระเจ้าซึ่งทุกๆคนสามารถมาพบปะและสัมผัสกับพระเจ้าได้ทุกเวลามิใช่เป็นสถานที่ของการค้าขายหรือการแสวงหาผลกำไร […]

อ่านต่อ

2018-02-25 “PER CRUCEM AD LUCEM”

     สวัสดีครับพบกันอีกครั้งกับคอลัมน์“คิดสักนิด..สะกิดใจ”นะครับอาทิตย์นี้เราเข้าสู่สัปดาห์ที่2 ของเทศกาลมหาพรตแล้วนะครับอาทิตย์นี้เราได้ยินพระวาจาของพระเจ้าเกี่ยวกับการจำแลง พระวรกายของพระเยซูเจ้าเพื่อเตือนใจเราให้คิดถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าโดยเฉพาะในเวลาแห่งความยากลำบากในชีวิตหรือเวลาแห่งการทดสอบเหมือนดังประสบการณ์ของอัครสาวกทั้งสามคือเปโตรยากอบและยอห์นที่พระเยซูเจ้าทรงพาพวกเขาไปที่ภูเขาสูง(ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการประทับอยู่ของพระเจ้า) แล้วพระองค์ได้แสดงพระสิริรุ่งโรจน์ในฐานะพระเจ้าต่อหน้าต่อตาพวกเขาโดยมีโมเสสและเอลียาห์อยู่ร่วมกับพระองค์เพื่อยืนยันว่า“พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระเจ้าและพระผู้ไถ่ของพวกเขา” เพราะก่อนหน้านี้พระเยซูเจ้าได้ตรัสทำนายครั้งแรกถึงพระทรมานและการสิ้นพระชนม์ทำให้บรรดาศิษย์หลายๆคนเริ่มไม่มั่นใจในพระองค์ยิ่งกว่านั้นพระองค์ยังตรัสสอนกับบรรดาศิษย์ว่า“หากใครต้องการติดตามพระองค์ต้องเลิกนึกถึงตนเองให้แบกไม้กางเขนของตนและติดตามพระองค์”นั่นหมายความว่าพระองค์กำลังท้าทายบรรดาศิษย์ให้ตายต่อน้ำใจของตนเองทำให้มีศิษย์หลายคนเริ่มไม่มั่นใจและตัดสินใจละจากพระองค์ไป พระองค์จึงประจักษ์พระวรกายในวันนี้เพื่อสร้างความมั่นใจและสร้างกำลังใจพิเศษให้เห็นภาพล่วงหน้าถึงเกียรติมงคลที่พวกเขาจะได้รับเหมือนกับพระองค์หลังจากที่ผ่านทางแห่งไม้กางเขนเช่นเดียวกันพระศาสนจักรก็ต้องการให้กำลังใจแก่คริสตชนทุกคนด้วยภาพสิริมงคลของพระเจ้าพระวรสารตอนนี้จึงปรากฎอยู่ในช่วงมหาพรตเพื่อเราให้เรามั่นใจว่าเมื่อผ่านกางเขนหรือความยากลำบากต่างๆในชีวิตเราก็จะพบพระสิริรุ่งโรจน์แห่งปัสกาเช่นเดียวกันดังคติพจน์ของพระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัยกิจบุญชูที่กล่าวไว้ว่า“PER CRUCEM […]

อ่านต่อ

2018-02-18 มหาพรต กับ จิตตารมณ์ “การถือศีลอดอาหาร”

แทนคิดสักนิด…สะกิดใจ มหาพรตกับจิตตารมณ์“การถือศีลอดอาหาร” 1. ประเพณีการทำกิจใช้โทษบาป           เทศกาลเตรียมฉลองปัสกาได้แก่40 วันนับจากวันพุธรับเถ้าจนถึงวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ระลึกถึงการกลับมีชีวิตใหม่ขององค์พระเยซูคริสตเจ้าในวันเหล่านี้บรรดาคริสตชนจะใช้เวลาเพื่อไตร่ตรองพระธรรมคำสอนที่มุ่งตักเตือนให้ลดละเลิกความอธรรมทุกชนิดที่ทำให้เสื่อมเสียศักดิ์ศรีการเป็นบุตรพระเจ้าและหันกลับมาดำเนินชีวิตตามคุณค่าพระวรสารซึ่งให้ความสำคัญต่อการภาวนาพลีกรรมและให้ทานที่เป็นกิจกรรมภายนอกของการกลับใจ           วันศุกร์ตลอดปีก็เป็นอีกวันหนึ่งที่เป็นประเพณีปฏิบัติมาตั้งแต่สมัยคริสตชนกลุ่มแรกเพราะเป็นวันที่พระเยซูสิ้นพระชนม์เพื่อสอนเราให้เข้าใจความจริงของการเป็นพระเจ้าก็คือการเสียสละชีวิตเพื่อรักและรับใช้คนจำนวนมากทุกวันศุกร์บรรดาคริสตชนจะจดจำเหตุการณ์ที่พระคริสต์ได้ถวายพระองค์จนสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อเราเองแต่ละคนก็ต้องมีส่วนร่วมในเส้นทางสายเดียวกัน 2. […]

อ่านต่อ

2018-02-11 สาส์นมหาพรต ค.ศ. 2018

แทนคิดสะนิด…สะกิดใจ สาส์นมหาพรตค.ศ. 2018 ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส “เพราะความอธรรมจะเพิ่มมากขึ้นความรักของคนจำนวนมากจะเย็นลง” (มธ  24 : 12) พี่น้องชายหญิงที่รักทั้งหลาย […]

อ่านต่อ

2018-02-04 วันฉลองการถวายพระกุมารในพระวิหาร

สวัสดีครับพี่น้องที่รักในสัปดาห์ที่ผ่านมาคือในวันที่2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเรามีวันฉลองที่เก่าแก่และสำคัญในพระศาสนจักรของเราคือวันฉลองการถวายพระกุมารในพระวิหารซึ่งตามธรรมเนียมของพระศาสนจักรก็จะมีการเสกเทียนและแห่เทียนบริเวณหน้าโบสถ์กันด้วยดังนั้น“คอลัมน์คิดสักนิด..สะกิดใจ”ในอาทิตย์นึ้จึงขอนำเรื่องราวของวันฉลองดังกล่าวมาแบ่งปันให้กับพี่น้องสักนิดนะครับ การฉลองถวายพระกุมารในพระวิหารในอดีตเราเรียกวันนี้ว่า“วันแม่พระถือศีลชำระ”เพราะในอดีตเราเชื่อว่าวันฉลองในวันนี้คือวันที่เราระลึกถึงพระนางมารีย์ที่ทรงถวายบุตรชายคนแรกในพระวิหารตามธรรมบัญญัติของโมเสสที่กำหนดไว้ว่า“หญิงที่คลอดบุตรจะถือว่ามีมลทินเป็นเวลา40 วันหลังการให้กำเนิดบุตรและเธอจะต้องมาแสดงตนต่อพระสงฆ์ที่พระวิหารเพื่อถวายบูชาเป็นการชำระมลทินให้บริสุทธิ์และทำการไถ่บุตรของเธอคืนมา”ถ้าไม่ทำเช่นนี้บุคคลนั้นจะถูกขับออกจากการกราบไหว้นมัสการแบบชาวยิวซึ่งแน่นอนกฎหมายเรื่องนี้ไม่สามารถผูกมัดกับพระนางมารีย์ได้เพราะพระนางมารีย์นั้นไม่มีบาปมลทินใดๆ  แต่ด้วยความนอบน้อมของพระนางมารีย์และให้สอดคล้องกับกฎหมายของชาวยิวพระนางมารีย์จึงทรงยอมรับพิธีกรรมนี้และได้ถวายบุตรชายคนแรกแด่พระเจ้าโดยถวายเครื่องบูชาคือนกเขาหนึ่งคู่ หรือ นกพิราบสองตัว(เพื่อไถ่บุตรคืนมา) ซึ่งเป็นการถวายของคนจน(ถ้าเป็นคนรวยจะถวายลูกแกะ) ตามบันทึกเหตุการณ์ในพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา(ลก. 2:22-39) […]

อ่านต่อ

2018-01-21 โป๊ปประกอบพิธีสมรสบนเครื่องบินให้แอร์โฮสเตส-สจ๊วต

แทนคิดสักนิด…สะกิดใจ โป๊ปประกอบพิธีสมรสบนเครื่องบินให้แอร์โฮสเตส–สจ๊วต สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกทรงสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการประกอบพิธีมงคลสมรสให้คู่บ่าวสาวซึ่งเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่พระองค์ประทับในการเสด็จเยือนประเทศชิลี เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างที่สมเด็จพระสันตะปาปาประทับเครื่องบินสายการบินลาแทม เพื่อเสด็จจากกรุงซันติอาโก ไปยังเมืองอีกีเก ทางภาคเหนือของชิลี โดย นางเปาลา […]

อ่านต่อ

2018-01-28 พระวาจาและกิจการของพระเยซูเจ้า

สวัสดีครับพบกันอีกครั้งในคอลัมน์“คิดสักนิด..สะกิดใจ” ในอาทิตย์ที่4 ของเทศกาลธรรมดาพระวาจาของพระเจ้าในพระวรสารวันนี้เราได้เห็นถึงพระวาจาและกิจการของพระเยซูเจ้าในศาลาธรรมทรงสั่งสอนชาวเมืองคาเปอร์นาอุมอย่างผู้ทรงอำนาจและทำให้ชาวเมืองรู้สึกประหลาดใจเพราะการสอนของพระองค์ทรงอำนาจและไม่เหมือนการสอนทั่วไปของบรรดาธรรมาจารย์ในเวลานั้นด้วยเหตุผลที่ว่าประการแรกพระองค์ทรงสอนจากหัวใจไม่ใช่จากสติปัญญาและคำสอนของพระองค์นั้นมาจากความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระบิดาเจ้าสวรรค์ประการที่สองพระองค์ทรงให้ความสำคัญกับจิตตารมณ์ไม่ใช่ตัวบทกฎหมายและทรงชี้ให้เห็นถึงคุณค่าเรื่องของ “ความรักและความเอาใจใส่” และประการสุดท้ายคำสอนของพระองค์มีจุดมุ่งหมายเพื่อการเปลี่ยนแปลงจิตใจของผู้ฟังและสร้างกำลังใจให้แก่ผู้ที่กำลังประสบความยากลำบากคำสอนของพระองค์จึงเติมเต็มชีวิตของพวกเขาจากความหวาดกลัวความเกลียดชังและความว่างเปล่าให้มีชีวิตที่ดีขึ้นทำให้ชีวิตของพวกเขามีคุณค่าและความหมายนอกจากนั้นในตอนท้ายของพระวรสารพระเยซูเจ้ายังได้ทรงแสดงอำนาจของพระองค์ด้วยการขับไล่ผีปีศาจจากชายผู้หนึ่งด้วยคำพูดที่ว่า“จงเงียบออกไปจากชายผู้นี้” (มธ.1:26) และมันก็ออกไปทันที พี่น้องครับพระวาจาของพระเจ้าในอาทิตย์นี้จึงสะท้อนให้เราเห็นถึงพระวาจา และกิจการที่ทรงอำนาจของพระเยซูเจ้าซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ควรมีอิทธิพลต่อความคิดความรู้สึกและจิตใจของเราด้วยเช่นกันโดยเฉพาะพวกเราที่ได้ยินพระวาจาของพระเจ้าในขณะที่เรามาวัดในทุกๆอาทิตย์พระวาจาและคำสอนของพระเยซูเจ้าได้เปลี่ยนแปลงจิตใจของเรามากน้อยแค่ไหน? คำสอนของพระองค์เตือนใจเราเป็นคนที่ดีขึ้นบ้างหรือเปล่าเช่นพระองค์ทรงสอนให้เรารักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเองทรงสอนให้เราให้อภัยเขาเจ็ดครั้งเจ็ดสิบหนสอนให้เราซื่อสัตย์แม้แต่ในเรื่องเล็กน้อยและสอนเราให้มีจิตใจที่บริสุทธิ์ฯลฯเราได้ทำตามคำสอนเหล่านี้บ้างหรือเปล่า? […]

อ่านต่อ

Posts pagination

1 … 33 34 35 … 60

เกี่ยวกับวัดฯ

  • ประวัติอาสนวิหาร
  • แม่พระอัสสัมชัญ
  • บรรณฐาน
  • สถาปัตยกรรม
  • กระจกสี
  • ภาษาลาตินในวัด

บริการต่างๆ

  • ล้างบาปทารก / Baptisms
  • แต่งงาน / Wedding
  • การขออนุญาตถ่ายภาพ

สารวัดย้อนหลัง

  • บทสนทนาจากเจ้าอาวาส
  • คิดสักนิด...สะกิดใจ...
  • ปลัดแก่ ซอย40
  • ปี 2012

บุคลากร/องค์กรต่างๆในวัด

  • พระสงฆ์
  • สำนักงานวัด
  • สภาภิบาล
  • นักขับร้อง
  • สโมสรเยาวชน

ลิงค์คาทอลิก

  • สภาสังฆราชคาทอลิกประเทศไทย
  • อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
  • หอจดหมายเหตุ อัครสังฆมณฑลฯ
  • สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย
Facebook-f Youtube