• หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us

Category: บทสนทนาจากเจ้าอาวาส

2020-01-12 ข้อคิดวันฉลองพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง ปี A

ข้อคิดวันฉลองพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้างปีA มธ3: 13-17…เมื่อพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้างแล้วเสด็จขึ้นจากน้ำทันใดนั้นท้องฟ้าเปิดออกพระองค์ทอดพระเนตรเห็นพระจิตของพระเจ้าเสด็จลงมาเหนือพระองค์แล้วมีเสียงจากสวรรค์กล่าวว่า“ผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเราเป็นที่โปรดปรานของเรา” วันนี้เราทำการฉลองการรับพิธีล้างของพระเยซูเจ้า…พระเยซูเจ้าพระผู้ไม่มีบาปได้ทรงต่อแถวกับพวกคนบาปและได้ร้บพิธีล้างในแม่น้ำจอร์แดนจากยอห์นลูกพี่ลูกน้องของพระองค์การที่พระองค์ทรงกระทำเช่นนี้ก็เพื่อที่จะช่วยปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระจากอำนาจของบาป… ข้อคิด…การรับพิธีล้างของพระเยซูเจ้าเตือนใจเราให้คิดถึงศีลล้างบาปที่เราแต่ละคนได้รับ…ในพระศาสนจักรคริสตชนแต่ละคนอาจจะมีตำแหน่งหน้าที่แตกต่างกันออกไปแต่ว่าเมื่อเรายืนอยู่หน้าบัลลังก์ของพระผู้ทรงเป็นเจ้าในวันพิพากษาตำแหน่งหน้าที่ทั้งหลายคงจะไม่มีความสำคัญเท่าใดมากนัก…แต่จะอยู่ที่ว่าศักดิ์ศรีของความเป็นคริสตชนของเราแต่ละคนนั้นเราได้เจริญชีวิตให้สอดคล้องกับพันธะแห่งศีลล้างบาปที่เราได้รับมากน้อยแค่ไหน… พิธีโปรดศีลล้างบาปเป็นพิธีที่สง่างามและสร้างความประทับใจให้กับผู้รับโดยเฉพาะอย่างยิ่งแก่ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่และผู้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีในพิธีโปรดศีลล้างบาปนี้ผู้รับจะได้รับชื่อแบบคริสตชนหรือที่เราเรียกว่าศาสนนามและได้รับการต้อนรับเข้าสู่ครอบครัวของประชากรพระเจ้าหรือพระศาสนจักรนั่นเองเราจะได้ฟังบทอธิษฐานภาวนาที่มีความไพเราะและมีความหมายอย่างยิ่งในเนื้อหาผู้รับศีลล้างบาปจะได้รับเครื่องหมายแห่งกางเขนศักดิ์สิทธิ์อันเป็นเครื่องหมายแห่งความรักของพระคริสต์ที่มีต่อเขามีการเทน้ำบนศีรษะของผู้รับศีลล้างบาปน้ำเป็นสัญลักษณ์ของการทำให้สะอาดและในศีลล้างบาปผู้รับฯจะได้รับการทำให้สะอาดหมดจดจากบาปแต่ที่สำคัญก็คือศีลล้างบาปเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตเพราะในศีลล้างบาปเราจะได้มีส่วนในชีวิตอมตะของพระเจ้า ในพิธีโปรดศีลล้างบาปผู้รับจะได้รับการเจิมด้วยน้ำมันศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับที่นักกีฬานวดตัวและกล้ามเนื้อด้วยน้ำมันก่อนที่จะออกไปแข่งขันต่อสู้ผู้รับศีลล้างบาปที่ได้รับการเจิมด้วยน้ำมันศักดิ์สิทธิ์แล้วก็พร้อมที่จะออกไปต่อสู้กับความชั่วร้ายในโลกในฐานะที่เป็นตัวแทนขององค์พระคริสต์ในโลก พิธีมอบเสื้อขาวให้กับผู้รับศีลล้างบาปเป็นสัญลักษณ์แห่งศักดิ์ศรีของความเป็นคริสตชนส่วนเทียนที่จุดส่องแสงสว่างหมายถึงแสงสว่างอันล้ำค่าของความเชื่อที่พระเจ้าได้ทรงเรียกเขาให้ออกจากความมืดให้เข้าสู่แสงสว่างอันน่าพิศวงแห่งพระบุตรของพระองค์ สิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับพระเยซูเจ้าในการรับพิธีล้างจากท่านยอห์นแบปติสต์ก็ได้เกิดขึ้นกับผู้รับศีลล้างบาปเช่นเดียวกันต่อไปนี้หลังจากที่เขาได้รับศีลล้างบาปแล้วพระเจ้าจะทรงเรียกชื่อเขาทีละคนพระองค์จะทรงตรัสกับพวกเขาทีละคนว่า“ผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเราเป็นที่โปรดปานของเรา” และพระจิตเจ้าจะเสด็จลงมายังเขาเพื่อช่วยเขาให้เจริญชีวิตอย่างคริสตชนและให้เขามีส่วนร่วมในพันธกิจของพระเยซูเจ้า […]

อ่านต่อ

2020-01-05 ข้อคิดวันสมโภชพระคริสตเจ้าทรงแสดงองค์ ปี A

ข้อคิดวันสมโภชพระคริสตเจ้าทรงแสดงองค์ ปี A มธ2: 1-12…พวกเราได้เห็นดาวประจำพระองค์ขึ้นจึงพร้อมใจกันมาเพื่อนมัสการพระองค์… ในวันสมโภชพระคริสตเจ้าทรงแสดงองค์วันนี้เราจะได้ยินได้ฟังเรื่องของปราชญ์ซึ่งมาจากบูรพาทิศด้วยการนำของดวงดาวมหัศจรรย์เพื่อมานมัสการองค์พระคริสต์–พระกุมาร…เราทุกคนต่างก็กำลังเดินทางแห่งชีวิตอยู่ด้วยเหมือนกันแต่เป็นการเดินทางชีวิตที่กำลังมุ่งไปสู่เบธเลเฮมแห่งเมืองสวรรค์ซึ่งณที่นั้นพวกเราหวังจะได้พบกับองค์พระเจ้าอย่างหน้าต่อหน้าเรามิได้ถูกนำด้วงแสงสว่างแห่งดวงดาวแต่เราได้รับการนำด้วยแสงสว่างแห่งความเชื่อ…ให้เราอธิษฐานภาวนาต่อพระเจ้าเพื่อให้พระองค์ได้ทรงทวีความเชื่อของเราให้มั่นคงเข้มแข็งยิ่งๆขึ้น… ข้อคิด…นักบุญมัทธิวได้นำเสนอให้เห็นถึงการเผยแสดงของพระเจ้าในหลายวิธีที่แตกต่างกันแต่ก็มีจุดประสงค์เดียวกันคือให้พระบุตรพระเจ้าที่มาบังเกิดเป็นมนุษย์เป็นที่รู้จักและได้รับการต้อนรับจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกันและเพื่อให้มนุษยชาติได้มาเป็นครอบครัวเดียวกันโดยให้นมัสการและรับใช้พระเจ้าองค์เดียวกัน…องค์พระบุตรพระเจ้านี้ที่ชนชาวยิวซึ่งมีพระคัมภีร์ที่ได้ค่อยๆเผยแสดงการเสด็จมาของพระองค์กลับปฏิเสธไม่ยอมรับพระองค์ขณะที่ชนต่างศาสนาโดยการนำของดวงดาวมหัสจรรย์ได้มาค้นหาพระกุมารและเมื่อพบแล้วก็ได้นมัสการพระองค์ถวายของขวัญแด่พระองค์ ความปรารถนาอันแรงกล้าของพระเยซูเจ้าผู้สถาปนาพระศาสนจักรและของพระศาสนจักรเองในทุกยุคทุกสมัยก็คือต้องการให้มนุษยชาติมีเอกภาพสากลภาพและสันติภาพที่แท้จริงและได้เป็นครอบครัวเดียวกัน มนุษย์คนแรกในพระคัมภีร์ซึ่งได้เชื่อในสากลภาพคืออับราฮัมบิดาแห่งควาเชื่อของมนุษยชาติพระเจ้าได้ทรงสัญญากับท่านไว้ว่าในวันหนึ่งข้างหน้าบรรดาประชาชาติต่างๆจะมาร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในพงศ์พันธุ์ของท่านและท่านเองก็ได้เชื่อเช่นนั้น ประชาชาติอิสราแอลได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รวบรวมประชากรทั้งหลายให้เป็นหนึ่งเดียวกันในพงศ์พันธุ์ของอับราฮัมและดังนี้พระสัญญาแห่งสากลภาพก็จะบรรลุถึงความสำเร็จ แต่ชาวอิสราแอลได้เชื่ออย่างผิดๆว่าพวกเขาสามารถสร้างสากลภาพเอกภาพและสันติภาพดังกล่าวขึ้นมาได้ด้วยการปฏิบัติตามกฎระเบียบอะไรบางอย่างเช่นการถือธรรมบัญญัติการถือวันสับบาโตการเข้าสุหนัตฯลฯแต่ว่าจริงๆแล้วจะต้องเป็นความเชื่อของอับราฮัมต่างหากที่จะสามารถรวบรวมชนทุกชาติทุกภาษาให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ การประกาศว่าจะต้องมีประชากรใหม่ของพระเจ้าที่ไม่จำกัดเชื้อชาตินั้นได้รับการตระเตรียมล่วงหน้าในประชากรเลือกสรรและได้สำเร็จเป็นไปในองค์พระคริสตเจ้าเพราะในแผนการของพระบิดาเจ้าเป็นพระองค์เองที่จะทรงรวบรวมทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในองค์พระเยซูคริสตเจ้า(อฟ1: […]

อ่านต่อ

2019-12-15 ข้อคิดอาทิตย์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า ปี A

ข้อคิดอาทิตย์ที่3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าปีA มธ11: 2-11…ท่านทั้งหลายไปดูอะไรในถิ่นทุรกันดาร…จงไปบอกยอห์นถึงสิ่งที่ท่านได้ยินและได้เห็น…ในหมู่ที่เกิดจากหญิงไม่มีใครยิ่งใหญ่กว่ายอห์นผู้ทำพิธีล้าง… ในพระวรสารของวันนี้เราเห็นพระเยซูเจ้ากำลังทำการอัศจรรย์…คนตาบอดกลับแลเห็นคนหูหนวกได้ยินคนง่อยเดินได้คนยากจนได้รับการประกาศข่าวดี…เป็นการแสดงออกซึ่งความรักเมตตาสงสารของพระเยซูเจ้าซึ่งมีต่อเพื่อนมนุษย์ที่กำลังเจ็บปวดทนทุกข์ทรมานดังนั้นในพิธีบูชาขอบพระคุณนี้ให้เราเข้ามาหาพระองค์ด้วยความเชื่อศรัทธาความหวังและความรัก ข้อคิด…เวลาที่เราคิดถึงนักบุญยอห์นแบปติสต์เราก็มักจะคิดถึงท่านว่าเป็นผู้นำหน้าพระผู้ไถ่เพื่อจะเตรียมประชาชนสำหรับการเสด็จมาของพระองค์ดังนั้นเราจึงได้ยินเรื่องราวของท่านมากมายในเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า…เราจะไม่ได้ยินว่าท่านยอห์นเป็นคนที่ต้องการหน่วงเหนี่ยวลูกศิษย์ของท่านไว้กับตัวท่านเองหลังจากที่พระเยซูเจ้าได้ทรงเริ่มพระพันธกิจของพระองค์หรือท่านอยากให้มีผู้ติดตามมากมายแต่ก็มีผู้คนจำนวนหนึ่งที่คิดว่าท่านยอห์นเป็นพระแมสสิยาห์แต่จริงๆแล้วตัวท่านเองไม่เคยมีความคิดเช่นนี้เลยแต่ถึงกระนั้นเราก็รู้ว่าหลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเจ้า20 ปีเรายังสามารถพบลูกศิษย์ของท่านยอห์นในแผ่นดินศักดิ์สิทธ์เพราะลูกศิษย์ของท่านบางคนได้รับการต้อนรับให้เข้าสู่พระศาสนจักรเมื่อพวกเขาได้ยินพูดถึงองค์พระจิตเจ้าเป็นครั้งแรก(กจ19) ในพระวรสารโดยนักบุญมาระโกและนักบุญลูกาไม่มีการแสดงนัยยะให้เห็นว่าท่านยอห์นได้ยอมรับว่าพระเยซูเจ้าเป็นพระแมสสิยาห์แต่ว่าในพระวรสารโดยนักบุญมัทธิวในอาทิตย์ที่แล้วในการรับศีลล้างของพระเยซูเจ้าจากท่านท่านก็ยอมรับความเป็นพระแมสสิยาห์ของพระเยซูเจ้าเมื่อได้ยินเสียงจากสวรรค์กล่าวว่า“ผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเราเป็นที่โปรดปรานของเรา” แต่ว่าในพระวรสารของนักบุญมัทธิวในวันอาทิตย์นี้กลับมิใช่อย่างนั้นท่านยอห์นยังคงตั้งแง่มีความเคลือบแคลงสงสัยในองค์พระเยซูเจ้าพระวรสารของอาทิตย์ที่แล้วเราได้ยินเสียงร้องตะโกนของท่านยอห์นจากถิ่นทุรกันดารถึงผู้หนึ่งที่กำลังจะเสด็จมาส่วนในวันอาทิตย์นี้เราได้ยินเสียงของท่านยอห์นที่ตั้งคำถามจากคุกว่าพระเยซูเจ้าคือพระผู้ที่จะมาหรือจะต้องรอคอยใครอีก… เพราะท่านยอห์นได้ประณามกษัตริย์เฮโรดอย่างเปิดเผยถึงการหย่าจากภรรยาของพระองค์เองและไปทำการสมรสใหม่กับภรรยาของน้องชายของพระองค์คือนางเฮโรเดียส…พระวรสารของวันอาทิตย์นี้จึงเปิดตัวท่านยอห์นแบปติสต์จากคุกที่มืดมิดอับชื้นที่ใช้ขังท่านและจากคุกที่ท่านโดนคุมขังนี้ท่านได้ส่งศิษย์ของท่านไปหาพระเยซูเจ้าเพื่อที่จะค้นหาความจริงว่าจริงๆแล้วพระองค์เป็นใครกันแน่“ท่านคือผู้ที่จะมาหรือเราจะต้องรอใครอีก” […]

อ่านต่อ

2019-12-22 ข้อคิดอาทิตย์ที่ 4 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า ปี A

ข้อคิดอาทิตย์ที่ 4 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าปีA มธ1: 18-24…พระนางมารีย์ซึ่งเป็นคู่หมั้นของโยเซฟจากราชวงศ์ดาวิดจะให้กำเนิดบุตรชายชื่อว่า“เยซู”… ขณะที่เรากำลังเข้าใกล้วันสมโภชพระคริสตสมภพทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนว่าจะรีบเร่งกันไปหมดจนอาจจะทำให้ส่วนที่เป็นเรื่องของจิตวิญญาณถูกบดบังไปหรือไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร…ขอให้เราได้หยุดไตร่ตรองสักครู่หนึ่งถึงการบังเกิดมาเป็นมนุษย์ขององค์พระบุตรพระเจ้าเพื่อให้จิตวิญญาณและหัวใจของเราได้มีที่ว่างและพร้อมที่จะต้อนรับองค์พระเยซูคริสตเจ้าที่กำลังจะเสด็จมาหาเราในพิธีบูชาขอบพระคุณนี้และในชีวิตประจำวันของเรา ข้อคิด…ทั้งสามบทอ่านของวันอาทิตย์ที่สี่เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าอันเป็นอาทิตย์สุดท้ายของเทศกาลนี้ต่างก็กล่าวถึงอัตลักษณ์ของ“พระผู้ที่จะต้องเสด็จมา”…อัตลักษณ์ของพระกุมารน้อยนี้ยังจะแลเห็นไม่ชัดนักในพระธรรมเก่าแม้ว่าท่านประกาศอิสยาห์จะได้พูดถึงการเสด็จมาของเด็กน้อยอัศจรรย์ท่านหนึ่ง(อสย7: 10-14)แต่ก็ไม่มีเหตุผลอย่างใดที่จะเชื่อว่าท่านประกาศกจะรู้จักอย่างลึกตื้นหนาบางถึงเด็กน้อยอัศจรรย์นี้คำทำนายต่างๆจะเป็นที่เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งก็ต่อเมื่อเหตุการณ์ต่างๆจะได้อุบัติขึ้นตามที่ได้ทำนายไว้…ท่านประกาศกได้ทูลทัดทานกษัตริย์อาหัสว่าราชวงศ์ของกษัตริย์ดาวิดมิใช่ว่าจะอยู่ได้ด้วยความช่วยเหลือของกษัตริย์จากต่างชาติแต่จะอยู่ได้ด้วยความไว้วางใจในพระเจ้าเท่านั้นโดยท่านให้เครื่องหมายอันหนึ่งแก่กษัตริย์ว่า“หญิงพรหมจารีจะตั้งครรภ์และจะคลอดบุตรชายซึ่งจะได้รับนามว่า ‘อิมมานูเอล’แปลว่า‘พระจ้าทรงสถิตกับเรา’”           ส่วนในพระวรสารนั้นนักบุญมัทธิวก็แสดงให้เห็นว่าคำทำนายต่างๆได้สำเร็จเป็นไปในองค์พระเยซูเจ้าด้วยการที่ท่านได้ทำการเฉลิมฉลองพระเยซูเจ้าว่าเป็นความสำเร็จบริบูรณ์ขั้นสุดท้ายของคำทำนายคือเป็นพระกุมารแห่งราชวงศ์ของกษัตริย์ดาวิดเกิดจากหญิงพรหมจารีและจะเป็น”องค์อิมมานูเอล” […]

อ่านต่อ

2019-12-29 ข้อคิดวันฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ของพระเยซูเจ้า พระแม่มารีย์และนักบุญโยเซฟ ปี A

ข้อคิดวันฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ของพระเยซูเจ้าพระแม่มารีย์และนักบุญโยเซฟปีA บสร3: 3-7, 14-17ก…บุตรที่ให้เกียรติบิดาจะมีอายุยืน…ใครเคารพนับถือบิดาก็จะประสบความสุขสันต์หรรษากับบุตรของตนเอง…บุตรที่เชื่อฟังพระเจ้าจะทำให้มารดาชื่นใจ… พวกเรามาชุมนุมกันรอบๆพระแท่นของพระกุมารเจ้าในวันฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์นี้เราต่างคนต่างมาจากครอบครัวของแต่ละคนเพื่อเข้าสู่ครอบครัวที่ใหญ่กว่าของพระศาสนจักร…เป็นครอบครัวของชุมชนคริสตชนซึ่งจะต้องทำให้เราได้ตรึกตรองว่าเราต่างก็มีพระบิดาเดียวกันคือองค์พระเจ้าและเราทุกคนเป็นพี่น้องกันในพระคริสตเจ้า…ขอให้เราได้ใช้เวลาไตร่ตรองสักครู่หนึ่งว่าคุณภาพของสายสัมพันธ์ของเรากับครอบครัวของเราเองและกับชุมชนคริสตชนเป็นอย่างไรบ้าง… ข้อคิด…พระวาจาในบทอ่านที่หนึ่งเป็นการอธิบายพระบัญญัติประการที่สี่“จงนับถือบิดามารดาอายุจะได้ยืน” ซึ่งมีส่วนประกอบที่สำคัญอยู่สามประการด้วยกันคือ บิดามารดาต้องรักบุตรของตน…เราเห็นตัวอย่างที่สวยสดงดงามนี้ในพระวรสารของวันนี้เห็นความเอาใจใส่ของแม่พระกับนักบุญโยเซฟที่มีต่อพระกุมารเยซูในเรื่องของความปลอดภัยในชีวิตทันทีที่ท่านทั้งสองแลเห็นว่าชีวิตของพระกุมารอยู่ในอันตรายก็รีบพาพระกุมารหนีไปประเทศอีจิปต์แล้วเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ดีขึ้นก็ได้พาพระกุมารกลับบ้านที่นาซาเร็ธและเมื่อมาอยู่ที่บ้านนาซาเร็ธท่านทั้งสองก็พยายามจัดหาสิ่งแวดล้อมที่ดี…จนพระเยซูเจ้าทรงเจริญวัยขึ้นทั้งในพระปรีชาญาณพระชนมายุและพระหรรษทานเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้าและต่อหน้ามนุษย์ บุตรต้องนบนอบบิดามารดาของตน…ตัวอย่างที่นาซาเร็ธที่พระเยซูเจ้าทรงนบนอบเชื่อฟังแม่พระและนักบุญโยเซฟ…พระนางมารีย์เป็นสตรีแห่งความเชื่อซึ่งรักพระเจ้าด้วยสิ้นสุดชีวิตจิตใจส่วนนักบุญโยเซฟก็ได้รับการขนานามว่าเป็น“ผู้ชอบธรรม” […]

อ่านต่อ

2019-12-08 ข้อคิดอาทิตย์ที่ 2 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า ปี A

ข้อคิดอาทิตย์ที่ 2 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าปีA มธ3: 1-12…จงเตรียมทางขององค์พระผู้เป็นเจ้าจงทำทางของพระองค์ให้ตรงเถิด… จากพระวาจาของพระเจ้าในวันนี้เราได้ยินเสียงร้องที่โดดเดี่ยวอีกคำรบหนึ่งของท่านยอห์นแบปติสต์พลางเตือนพวกเราให้เตรียมหนทางสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้าให้เราแต่ละคนได้เตรียมที่ว่างในจิตวิญญาณและในหัวใจของเราเพื่อว่าพระองค์จะทรงเสด็จมาหาเราในพิธีบูชาขอบพระคุณนี้และในชีวิตของเรา…และท่านยอห์นได้เริ่มภารกิจของท่านด้วยการเชิญชวนให้เราทำการกลับใจใช้โทษบาป ข้อคิด…ท่านประกาศกอิสยาห์(อสย11: 1-10) ได้พยากรณ์ไว้ว่าแม้ตระกูลของเจสสีห์(บิดาของกษัตริย์ดาวิด) จะต้องถูกทอนลงมาให้เหลือแต่ตอถึงกระนั้นจากหน่ออันนี้กิ่งหนึ่งจะงอกขึ้นมาซึ่งจะเป็นกษัตริย์ที่แท้จริงเปี่ยมไปด้วยพระจิตเจ้าและคุณธรรมต่างๆของบรรพบุรุษ…กษัตริย์พระองค์ใหม่นี้จะทรงเป็นผู้พิทักษ์คนยากจนและผู้ฟื้นฟูสันติภาพให้กลับมาสู่มนุษยชาติ…นักบุญเปาโล(รม15: […]

อ่านต่อ

2019-12-01 ข้อคิดอาทิตย์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า ปี A

ข้อคิดอาทิตย์ที่1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าปีA มธ24: 37-44…จงเตรียมพร้อมไว้เพราะว่าบุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จมาในเวลาที่ท่านมิได้คาดหมาย… ในวันนี้ขณะที่เรากำลังเริ่มปีพิธีกรรมใหม่ของพระศาสนจักรพระวาจาของพระเจ้าเชิญชวนเราให้ขึ้นไปยังภูเขาขององค์พระผู้เป็นเจ้าไปยังพระวิหารพระเจ้าของยาโคบแล้วพระองค์จะทรงสอนวิถีทางของพระองค์ให้เราและจะทรงช่วยเราให้เดินอยู่ในแสงสว่างของพระองค์…เราซึ่งกำลังชุมนุมกันอยู่ในบ้านของพระเจ้าให้เราได้ไตร่ตรองดูว่าเราแต่ละคนต้องการคำแนะนำและความช่วยเหลือจากพระองค์มากน้อยสักแค่ไหนในการเดินทางแห่งชีวิตมุ่งสู่พระอาณาจักรพระเจ้า ข้อคิด…บทบาทหน้าที่ที่สำคัญของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าก็คือเป็นการเตรียมจิตใจของบรรดาสัตบุรุษสำหรับการเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสหรือวันพระคริสตสมภพและการรอคอยการเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งของบุตรแห่งมนุษย์…และเพื่อว่าเราจะได้สามารถเข้าใจวันคริสต์มาสได้ดีเราต้องเริ่มตั้งต้นด้วยประวัติศาสตร์แห่งการช่วยให้รอดพ้น           แผนการแห่งการช่วยให้รอดพ้นของพระเจ้ามีจุดศูนย์กลางอยู่ที่องค์พระเยซูคริสตเจ้าและจะได้รับการปฏิบัติจนสำเร็จผ่านทางพระองค์…เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าจะมองย้อนหลังไปที่พระสัญญาของการเสด็จมาครั้งแรกของพระองค์เมื่อแผนการนั้นได้รับการประกาศให้ทราบอีกทั้งพลางมองไปข้างหน้าที่การจะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งของพระองค์เมื่อแผนการนั้นจะไปถึงขั้นสำเร็จบริบูรณ์…ส่วนว่าในขณะนี้เรากำลังทำการเฉลิมฉลองการเสด็จมาของพระองค์ในในชีวิตประจำวันของเราแต่ละคนไม่ว่าจะเป็นในพิธีบูชาขอบพระคุณในการสวดภาวนาในพระวาจาในการทำกิจเมตตาและในการทำหน้าที่ประจำวันของเราแต่ละคนฯลฯ           ในบทอ่านที่หนึ่งจากหนังสือของท่านประกาศกอิสยาห์(อสย2: […]

อ่านต่อ

2019-11-24 ข้อคิดอาทิตย์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา ปี C

ข้อคิดอาทิตย์ที่ 34เทศกาลธรรมดาปีC สมโภชพระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล ลก23: 35-43…ข้าแต่พระเยซูโปรดระลึกถึงข้าพเจ้าด้วยเมื่อพระองค์จะเสด็จสู่พระอาณาจักรของพระองค์… วันนี้เราถวายเกียรติแด่พระเยซูคริสตเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาลและเราสามารถถวายเกียรติแด่พระองค์ได้ดีที่สุดก็ด้วยช่วยกันทำให้พระอาณาจักรของพระองค์แผ่ขยายออกไปให้กว้างไกลที่สุด…แต่เป็นเพราะว่าบาปของเราแต่ละคนที่เป็นตัวชะรอการขยับขยายพระอาณาจักรของพระคริสตเจ้าซึ่งได้ให้อภัยแก่โจรที่กลับใจพระองค์ก็จะทรงให้อภัยบาปของเราด้วย ข้อคิด…กษัตริย์ดาวิดได้รับการเจิมน้ำมันศักดิ์สิทธิ์จากประชาชนของตนเองให้เป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์ที่เฮบรอนและในบทอ่านแรก(2ซมอ: 5: 1-3) เราก็ได้ฟังว่าประชาชนตระกูลทางภาคเหนือก็ได้ยอมรับพระองค์เป็นกษัตริย์ของพวกเขาด้วยเช่นเดียวกันดาวิดได้เป็นกษัตริย์ของประเทศที่ได้รวมกันอันเป็นรูปแบบของความเป็นกษัตริย์แห่งสากลจักรวาลของพระคริสตเจ้าซึ่งพวกเราทำการสมภชในวันนี้ […]

อ่านต่อ

2019-11-17 ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 33 เทศกาลธรรมดา ปี C

ข้อคิดวันอาทิตย์ที่33 เทศกาลธรรมดาปีC ลก21: 5-19…ก่อนที่เหตุการณ์ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นเขาจะจับกุมท่านจะเบียดเบียนท่าน…บางท่านจะต้องถูกประหารชีวิตด้วยท่านทั้งหลายจะเป็นที่เกลียดชังของทุกคนเพราะนามของเรา…ด้วยการยืนหยัดมั่นคงท่านจะรักษาชีวิตของท่านไว้ได้…         เรามีชีวิตอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย…ในท่ามกลางโลกที่เป็นเช่นนี้เราได้รับการคาดหวังให้เป็นประจักษ์พยานให้กับพระคริสตเจ้า…แต่เพื่อที่จะเป็นคนดีและเป็นประจักษ์พยานที่ดีนั้นเราต้องการความช่วยเหลือจากเบื้องบน…ดังนั้นให้เราได้อธิษฐานภาวนาขอความช่วยเหลือและพละกำลังจากพระเจ้า ข้อคิด…ขณะที่ปีพิธีกรรมของพระศาสนจักรกำลังจะจบสิ้นลงในช่วงสัปดาห์หน้าพระวาจาของพระเจ้าก็มุ่งให้คริสตชนได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับวาระสุดท้ายของโลกและการเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งของพระคริสตเจ้า…ในบทอ่านที่หนึ่ง(มลค1-2ก) ท่านประกาศกมาลาคีได้กล่าวว่าสำหรับคนชั่วนั้นวันของพระเจ้าจะเป็นวันแห่งการพิพากษาแต่สำหรับคนดีจะเป็นวันแห่งการช่วยให้รอดพ้น […]

อ่านต่อ

2019-11-10 ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 32 เทศกาลธรรมดา ปี C

ข้อคิดวันอาทิตย์ที่32 เทศกาลธรรมดาปีC ลก20: 27-38…คนที่จะบรรลุถึงโลกหน้าและจะกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตายนั้นจะไม่แต่งงานเป็นสามีภรรยากันอีกเพราะเขาจะไม่ตายอีกต่อไปเขาจะกลับคืนชีพ…พระเจ้ามิใช่พระเจ้าของผู้ตายแต่เป็นพระเจ้าของผู้เป็นเพราะทุกคนมีชีวิตอยู่เพื่อพระองค์… พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้ก็จะมุ่งประเด็นไปที่ความแน่ใจในชีวิตหน้าอันจะก่อให้เกิดความหวังที่น่าชื่นใจ…ชีวิตมิได้เป็นการเดินทางที่ไม่มีจุดหมายแต่เป็นการเดินทางมุ่งหน้าไปสู่ดินแดนแห่งพระสัญญาแห่งชีวิตนิรันดร์ความคาดหวังเช่นนี้ไม่ได้ตั้งอยู่บนอะไรที่เป็นของมนุษย์แต่ตั้งอยู่บนพระวาจาอันทรงฤทธิ์ของพระเจ้า ข้อคิด…ในช่วงเวลาของการใช้ชีวิตกับประชาชนของพระเยซูเจ้าพระองค์ต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มชนหลายกลุ่มด้วยกันซึ่งมีความแตกต่างกันในด้านของความเชื่อและค่านิยมแห่งชีวิตจากพระวรสารของวันนี้ก็มีพวกชาวสัดดูสีกลุ่มหนึ่งเข้ามาหาพระเยซูเจ้าและถามพระองค์เรื่องของการกลับคืนชีพ ก่อนที่เราจะเข้าไปในคำถามของเรื่องการกลับคืนชีพนี้เราควรจะได้ทราบภูมิหลังว่าพวกชาวสัดดูสีเป็นใครและมีอิทธิพลอย่างไรบ้างต่อชีวิตทางการเมืองและการศาสนาของชนชาวยิว…ในศตวรรษที่2 ก่อนคริสตกาลในสมัยของพี่น้องมัคคาบีพวกเขาได้ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาพรรคหนึ่งประกอบด้วยกลุ่มคนค่อนข้างมีฐานะดีทางสังคมทางการเมืองและทางการศาสนาพวกเขาได้ยอมรับเอาวัฒนธรรมและความคิดอ่านของพวกชาวกรีกในสมัยนั้น และในสมัยของพระเยซูเจ้าพวกชาวสัดดูสีนี้ก็ยอมรับเอาวัฒนธรรมและประเพณีปฏิบัติของพวกชาวโรมันเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับการคงไว้ซึ่งอำนาจและอิทธิพลเหนือพระวิหารและสภาสูงสุดของประชาชนของพวกเขาพวกเขาไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับพวกชาตินิยมซึ่งทำการเคลื่อนไหวต่างๆทางการเมืองอันอาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศชาติได้ อิทธิพลทางโลกที่ครอบงำพวกชาวสัดดูสีทำให้พวกเขามีนิสัยแบบอนุรักษ์นิยมทำให้พวกเขาไม่เชื่อว่ามีพระแมสสิยาห์ที่จะมาช่วยพวกเขาให้รอดพ้นไม่เชื่อในการกลับคืนชีพของผู้ตายและไม่เชื่อในเรื่องของผีสางเทวดาพวกเขาเชื่อว่าทั้งคนดีและคนชั่วเมื่อตายไปแล้วก็จะไปอยู่ด้วยกันในใต้บาดาลและเพราะความคิดดังกล่าวนี้นี่เองที่ทำให้พวกเขาสามารถเสพสุขเสพความสบายในชีวิตปัจจุบันโดยไม่ต้องกังวลถึงเรื่องของชีวิตหลังความตาย […]

อ่านต่อ

Posts pagination

1 … 30 31 32 … 68

เกี่ยวกับวัดฯ

  • ประวัติอาสนวิหาร
  • แม่พระอัสสัมชัญ
  • บรรณฐาน
  • สถาปัตยกรรม
  • กระจกสี
  • ภาษาลาตินในวัด

บริการต่างๆ

  • ล้างบาปทารก / Baptisms
  • แต่งงาน / Wedding
  • การขออนุญาตถ่ายภาพ

สารวัดย้อนหลัง

  • บทสนทนาจากเจ้าอาวาส
  • คิดสักนิด...สะกิดใจ...
  • ปลัดแก่ ซอย40
  • ปี 2012

บุคลากร/องค์กรต่างๆในวัด

  • พระสงฆ์
  • สำนักงานวัด
  • สภาภิบาล
  • นักขับร้อง
  • สโมสรเยาวชน

ลิงค์คาทอลิก

  • สภาสังฆราชคาทอลิกประเทศไทย
  • อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
  • หอจดหมายเหตุ อัครสังฆมณฑลฯ
  • สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย
  • ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025
Facebook-f Youtube