• หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us

Category: คิดสักนิด…สะกิดใจ

2016-12-11 อาทิตย์ที่สามเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

สวัสดีครับพี่น้องที่รักเผลอนิดเดียวเราก็มาถึงอาทิตย์ที่สามเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าแล้วและอีกไม่กี่สัปดาห์เราก็จะเข้าสู่วันสมโภชพระคริสตสมภพซึ่งเป็นวันที่มีคุณค่าอย่างมากสำหรับพวกเราในเดือนนี้เราจึงมีกิจกรรมต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นการจับจ่ายใช้สอยการให้ของขวัญการส่งการ์ดความสุขการอวยพรและการเตรียมตัวไปเที่ยวพักผ่อนกันในช่วงสิ้นปีซึ่งสำหรับพ่อถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะครับที่เราจะได้มีเวลาพักกายพักใจจากเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา วันอาทิตย์สัปดาห์ที่3 ของเทศกาลนี้พระศาสนจักรยังเชิญชวนให้เราพิจารณาไตร่ตรองเกี่ยวกับความชื่นชมที่พระบุตรของพระเจ้าจะเสด็จลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ประทับอยู่ท่ามกลางเราซึ่งพระศาสนจักรจะเรียกวันนี้ว่า“วันอาทิตย์แห่งความชื่นชมยินดี” (Gaudete Sunday)โดยคำว่า“Gaudete”เป็นคำภาษาลาตินที่แปลว่า“จงร่าเริงยินดีหรือจงชื่นชมยินดี”เพราะฉะนั้นในอาทิตย์นี้เราจึงอาจเห็นพระสงฆ์ใส่อาภรณ์สีกุหลาบหรือชมพูหรืออาจมีเทียนสีชมพูเล่มที่3 จุดส่องสว่างอยู่ข้างพระแท่นเป็นสีแห่งความชื่นชมยินดีหรือความชื่นบานแทนสีม่วงซึ่งเป็นสีแห่งการเป็นทุกข์กลับใจแล้วทำไมเราต้องชื่นชมยินดี? ก็เพราะว่าอีกไม่กี่วันพระบุตรของพระเจ้าจะเสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์เพื่อช่วยเราทุกคนให้รอดพ้นแล้วดังนั้นพระวาจาของพระเจ้าในอาทิตย์นี้จึงบอกให้เรารู้จักชื่นชนยินดีด้วยความหวังดังที่นักบุญยากอบที่เตือนใจเราว่า“จงมีความพากเพียรและทำจิตใจให้เข้มแข็งเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้เสด็จมาแล้ว” อย่าท้อถอยอย่าสิ้นหวังจนเลิกรอคอยกันไปเพราะพระเจ้าทรงรักษาพระสัญญาที่พระองค์มีต่อมนุษย์อย่างแน่นอนและบทพระวรสารที่เรียกร้องให้เราเข้าสู่สถานการณ์ใหม่แห่งความชื่นชมยินดีความรอดพ้นและการปกครองขององค์พระคริสตเจ้าดังคำพูดของพระเยซูเจ้าทรงกล่าวว่าเวลาแห่งความรอดพ้นมาถึงแล้ว“จงไปบอกยอห์นถึงสิ่งที่ท่านได้ยินและได้เห็นคนตาบอดกลับแลเห็นคนง่อยเดินได้คนโรคเรื้อนหายจากโรคคนหูหนวกกลับได้ยินคนตายกลับคืนชีพและคนยากจนได้รับการประกาศข่าวดี” ดังนั้นพี่น้องครับสิ่งสำคัญที่สุดที่เราควรกระทำเพื่อการรอคอยด้วยความชื่นชมยินดีที่พระเจ้ากำลังเสด็จมาช่วยเราให้รอดพ้นก็คือเปิดใจต้อนรับพระคริสตเจ้าลงมือกระทำด้วยการละทิ้งกิจการแห่งความชั่วร้ายต่างๆและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเราอย่ามั่วรอช้ามั่วแต่คิดหรือมีความความตั้งใจแต่ไม่ลงมือกระทำหรือมั่วแต่คอยมองดูคนอื่นทำและคอยวิพากวิจารณ์เพราะการทำแบบนี้ไม่ได้มีคุณค่าอะไรพ่อชอบเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับคริสโตเฟอร์โคลัมบัสที่เล่ากันว่า  เมื่อโคลัมบัสกลับมาจากการเดินทางกษัตริย์สเปนได้จัดงานเลี้ยงฉลองในความสำเร็จของท่านขุนนางที่รู้สึกไม่พอใจและหมั่นไส้  […]

อ่านต่อ

2016-12-04 อาทิตย์ที่ 2 ของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

สวัสดีครับพี่น้องที่รักพบกันอีกครั้งในสัปดาห์นี้อาทิตย์ที่2 ของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วพระวรสารและบทจดหมายของนักบุญเปาโลเรียกร้องให้เรามีความหวังโดยรู้จักตื่นเฝ้าระวังละทิ้งกิจการมืดมนและดำเนินชีวิตให้เหมาะสมเพื่อเตรียมตัวต้อนรับองค์พระกุมารเจ้าผู้ทรงบังเกิดประทับอยู่ท่ามกลางเราในสัปดาห์นี้พระวาจาของพระเจ้าจะพูดถึงนักบุญยอห์นบัปติสต์ผู้นำหน้าพระผู้ไถ่ท่านได้สอนเราให้รู้จักกลับใจเตรียมทางและทำทางของพระเจ้าให้ตรงและพร้อมที่จะทำลายกำแพงแห่งการแบ่งแยกที่ขวางกั้นเรากับพระเป็นเจ้าและกับเพื่อนมนุษย์ซึ่งทำให้เราไม่รู้จักรักให้โอกาสเห็นแก่ตัวและยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง หลายวันก่อนพ่อได้มีโอกาสอ่านบทความหนึ่งที่ดีเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้นั่นคือการรู้จักรักการให้โอกาสและการเห็นคุณค่าของผู้อื่นของบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่าNihon Rikagaku Kogyoเป็นบริษัททำชอล์กไร้ฝุ่นเล็กๆแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียวซึ่งรู้จักกันดีในวงการธุรกิจทำชอล์กในฐานะบริษัทอันดับ1 ของประเทศโดยเรื่องราวน่ารักที่พ่อกำลังจะพูดถึงนี้ไม่ได้เป็นเรื่องของการทำธุรกิจว่ามีวิธีการใดทำให้ธุรกิจมีส่วนแบ่งตลาดให้เป็นอันดับ1 แต่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับตัวพนักงานของบริษัทแห่งนี้ที่ร้อยละ70 ของพนักงานทั้งหมดเป็นผู้พิการและทุพพลภาพ  ซี่งคำถามที่สำคัญคือทำไมบริษัทถึงต้องจ้างพนักงานผู้พิเศษเหล่านี้ด้วย? ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนคุณOyama […]

อ่านต่อ

2016-11-27 ใจเมตตา

สวัสดีครับพี่น้องที่รักขอต้อนรับเข้าสู่ปีพิธีกรรมใหม่นั่นคือปีA และเริ่มต้นปีด้วยเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า(Advent) เทศกาลนี้เป็นช่วงเวลาของเตรียมจิตใจด้วยการสำนึกผิดกลับใจและใช้โทษบาปจากสิ่งไม่ดีต่างๆเพราะเราตระหนักดีว่า“พระกุมารเจ้าเสด็จลงมาบังเกิดเพื่อไถ่บาปให้แก่เรา”พระคัมภีร์จึงมีการพูดถึงการปรับเนินเขาให้ราบเรียบหรือการทำให้หลุมบ่อต่างๆในชีวิตให้เติมเต็มเพื่อให้พระกุมารเจ้าสามารถเสด็จมาดำเนินภายในจิตใจของเราได้อย่างสะดวกสบายเปรียบเทียบง่ายๆก็คือหากเรามีบาปก็คล้ายกับการมีเนินเขาก็เอามันออกไปซะ  และหากเรามีอะไรที่ยังไม่ได้ทำก็เท่ากับหลุมเป็นบ่อก็ถมให้เต็มช่วงเวลานี้พระศาสนจักรจึงเตือนใจคริสตชนเป็นพิเศษให้ดำเนินชีวิตด้วยความหวังให้รู้จักรักรู้จักให้อภัยสวดภาวนาเชื่อมั่นและไว้วางใจในพระเป็นเจ้าและพร้อมที่จะให้และแบ่งปันความสุขให้แก่กันและกันเพื่อทำให้เราสามารถพบกับพระเจ้าได้ในชีวิตของเรา พี่น้องครับเมื่อกล่าวถึง“การให้และการแบ่งปันความสุขให้แก่กันและกันโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน”ทำให้พ่อคิดถึงเรื่องหนึ่งที่งดงามที่เกิดขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อนของบุรุษที่ยิ่งใหญ่2 ท่านคืออิกนาซีเจปาดีริวสกีรัฐมนตรีของประเทศโปแลนด์และเฮอร์เบิร์ตฮูเวอร์ประธานธิบดีของประเทศสหรัฐอเมริกา…. ในปีค.ศ.1892 ณมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดสหรัฐอเมริกานักเรียนหนุ่มวัย18 ปีคนหนึ่งซึ่งเป็นเด็กกำพร้ายากจนและไม่ทราบว่าจะหันไปทางไหนเพื่อหาเงินมาชำระค่าเล่าเรียนให้กับตนเองที่มหาวิทยาลัยเขากับเพื่อนจึงตัดสินและตกลงกันว่าจะจัดงานดนตรีคอนเสิร์ตขึ้นในมหาวิทยาลัยเพื่อหาเงินเป็นทุนการศึกษาเล่าเรียนให้กับตนเอง พวกเขาได้เชิญนักเปียโนผู้หนึ่งที่มีชื่อเสียงมาเป็นผู้เปิดการแสดงคอนเสิร์ตโดยนักเปียโนนั้นมีชื่อว่า“อิกนาซีเจปาดีริวสกี” […]

อ่านต่อ

2016-11-13 เปลี่ยนแปลง

สวัสดีครับพี่น้องที่รักสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม(8 ธันวาคม2015-พฤศจิกายน2016) หรือปียูบิลี(Jubilee) ช่วงเวลาพิเศษของพระศาสนจักรซึ่งพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงประกาศเนื่องในโอกาสครบรอบ50 ปีของการปิดสภาสังคายนาวาติกันที่2 (1965-2015)เพื่อคริสตชนทั้งโลกได้มีโอกาสรำพึงไตรตรองกิจการแห่งเมตตาธรรมทั้งฝ่ายกายและฝ่ายจิตใจสำนึกผิดกลับใจวอนขอการอภัยและรับพระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์จากพระเป็นเจ้าเพื่อปลดเปลื้องบาปของเราดังนั้นพี่น้องท่านใดที่ยังไม่ได้ปฏิบัติกิจเมตตาดังกล่าวและยังไม่ได้ผ่านประตูศักดิ์สิทธิ์ก็ขอเชิญชวนเป็นพิเศษณโอกาสนี้นะครับ กล่าวด้วยเรื่องของการรับการอภัยจากพระบิดาเจ้าในปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมนี้มีอีกมุมมองหนึ่งที่เราจะลืมไม่ได้เช่นกันก็คือการดำเนินชีวิตของเราให้ศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นด้วยการกลับใจเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองอย่างต่อเนื่องละทิ้งนิสัยหรือสิ่งต่างๆที่ไม่ดีในชีวิตของเราเหมือนกับคำพูดของพระเยซูเจ้าที่กล่าวกับคนบาปในพระวรสารว่า“กลับไปแล้วอย่าทำบาปอีกเลย” นั่นหมายความว่าพระเจ้าทรงต้องการให้เรามนุษย์ร่วมมือกับพระองค์ด้วยการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงตัวเองพ่อได้มีโอกาสอ่านบทความหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องของการทิ้งนิสัยที่ไม่ดีของนักพูดท่านหนึ่งที่เรียกกันว่า“โค้ชสิริลักษณ์ตันศิริ”ท่านเป็นนักพูดที่เก่งในเรื่องของการสร้างแรงบันดาลใจปรับเปลี่ยนวิธีคิดทัศนคติและเพิ่มความสุขให้กับชีวิตท่านบอกว่า“หากเราต้องการให้ชีวิตของเราดีขึ้นลองทิ้งนิสัย(ขี้) ที่ไม่ดี  10 […]

อ่านต่อ

2016-11-06 “ทัศนคติเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน”

พี่น้องครับหลายๆ ท่านคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “ทัศนคติเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน” ซึ่งทัศนคติหรือมุมมองชีวิตเป็นเรื่องสำคัญที่กำหนดชีวิตของคนเราได้เป็นอย่างมาก เพราะทัศนคติสามารถเปลี่ยนวิธีการมองโลกรอบข้างไปจนถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตให้ออกไปในทิศทางใดจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว จะอึดสู้หรือท้อถอยก็อยู่ที่ทัศนคติในจิตใจของเรา มีเรื่องราวหนึ่งที่พ่อไปอ่านเจอมาในอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องราวน่าทึ่งของชายคนหนึ่ง ซึ่งในอดีตเคยเป็นคนไร้บ้าน […]

อ่านต่อ

2016-10-30 ถ้วยกระดาษ

สวัสดีครับนะครับพี่น้องพบกับอีกครั้งในคอลัมน์“คิดสักนิด..สะกิดใจ” บทความที่จะนำบทความดีๆมาเล่าให้กับพี่น้องเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและข้อคิดเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตให้แก่พี่น้องที่รักในอาทิตย์นี้พอขอนำเรื่องเล่าสะท้อนความเป็นจริงในสังคมของชายคนหนึ่งที่เคยมีอำนาจและเปรียบเปรยชีวิตของตนเองหลังปลดเกษียนเมื่อต้องกลับมาบรรยายที่เวทีแห่งเดิมแต่มาในสถานะใหม่เพื่อสอนใจเราว่า“จงอย่าลืมว่าตนเองคือใครเพราะตำแหน่งหน้าที่ก็คือหน้ากากที่เราสวมใส่เมื่อวันใดเราถอดกากออกยเราก็เป็นแค่ถ้วยกระดาษธรรมดาๆเท่านั้น” ชายท่านหนึ่งได้รับเชิญให้มาบรรยายท่ามกลางผู้เข้าฟังเป็นพันคนณห้องประชุมแห่งหนึ่งเขาเพิ่งเกษียณมาในเร็วๆนี้ซึ่งในอดีตเขาเป็น……แห่งชาติเขาลุกขึ้นยืนอยู่หน้าเวทีในขณะที่เขาเริ่มการพูดของเขานั่นเองเขาก็ยกกาแฟในถ้วยกระดาษขึ้นมาจิบแล้วก็เริ่มต้นพูดว่า“รู้มั้ยเมื่อหลายปีก่อนในสมัยที่ผมยังเป็น……แห่งชาติผมได้เคยมาพูดอยู่ณห้องประชุมแห่งนี้อยู่หลายครั้งเหมือนกันผู้จัดงานได้เชิญผมมาโดยจัดตั๋วเครื่องบินชั้นธุรกิจ(Business Class) ส่งคนขับรถมารับผมที่สนามบินพาผมไปที่โรงแรมเช็คอินโรงแรมรอต้อนรับไว้ให้ผมไว้เรียบร้อยพาผมขึ้นไปบนห้องพักตอนเช้ามีคนมารอรับที่   ล็อบบี้โรงแรมและพาผมมาที่นี่ที่ด้านหลังเวทีพาไปห้องพักรอและเสริฟกาแฟผมด้วยถ้วยกระเบื้องหรูหราสวยงาม แต่ตอนนี้เมื่อผมปลดเกษียนแล้วและไม่ได้เป็น……แล้วผมบินมาด้วยเครื่องชั้นประหยัด(Economy Class) นั่งแท็กซี่มาที่โรงแรมเช็คอินเองเช้าผมนั่งแท็กซี่มาที่นี่เองเดินเข้าทางด้านหน้าถามหาทางเข้ามาหลังเวที ผมขอกาแฟมีใครคนนึงชี้นิ้วไปที่เครื่องทำกาแฟที่มุมห้องและผมก็รินกาแฟใส่ถ้วยกระดาษตรงนั้น” บทเรียนนี้สอนว่าถ้วยกระเบื้องหรูหราที่ผมเคยได้รับไม่ได้มีไว้สำหรับตัวผมแต่มันมีไว้สำหรับตำแหน่งที่ผมเป็นผมมีค่าเหมาะแค่ถ้วยกระดาษเราทั้งหลายมีค่าแค่ถ้วยกระดาษเมื่อคุณเริ่มประสบความสำเร็จในชีวิตคุณจะได้รับความสะดวกสบายผู้คนจะเรียกว่า“ท่านครับท่านค่ะเค้าจะช่วยคุณถือกระเป๋าเปิดประตูให้คุณชงชาให้คุณดื่มทั้งๆที่คุณไม่ได้ร้องขอแต่นั่นไม่ได้ทำให้คุณเค้าทำให้ตำแหน่งที่คุณเป็นเมื่อคุณก้าวออกไปเค้าจะเอาทุกอย่างให้กับคนที่มาแทนที่คุณ”ดังนั้นจงอย่าลืมเป็นอันขาดว่าเรามีค่าเหมาะแค่ถ้วยกระดาษเท่านั้นและต้องปลงให้ได้สำหรับคนส่วนใหญ่ที่คบกันด้วยหน้ากากและตำแหน่งหน้าที่เท่านั้น […]

อ่านต่อ

2016-10-23 พ่อสอนลูก

สวัสดีครับพี่น้องที่รักพบกันอีกครั้งในคอลัมน์“คิดสักนิด…สะกิดใจ” ในอาทิตย์นี้พ่อขอนำบทสนทนาของสองพ่อลูกคู่หนึ่งซึ่งกำลังที่เป็นกล่าวถึงของคนในประเทศจีนในขณะนี้ว่า“ทำไมคนเราจะต้องรู้จักเคารพตนเองรักชาติมีมารยาทและมีความมั่นใจในตนเอง”โดยคุณพ่อท่านนี้ได้ใช้บทสนทนาง่ายๆเชิงเหตุผลสอนลูกของตนว่า“เรามีวิธีใดบ้างที่จะให้เราเป็นคนดีได้ภายในช่วงเวลาข้ามคืน” ลูก: พ่อครับทำไมคนพวกนั้นถึงไม่รอให้ไฟเขียวก่อนถึงค่อยไปหล่ะครับ? พ่อ: อาจเป็นเพราะพวกเขารีบมาก ลูก: เราก็รีบไปเรียนเหมือนกันนิครับแล้วทำไมเราไม่ฝ่าไฟแดงไปหล่ะครับ? พ่อ: งั้นพ่อถามลูกนะว่ากฎจราจรต้องให้ไฟแดงเปลี่ยนเป็นไฟเขียวก่อนถึงจะไปได้ใช่ไหม? […]

อ่านต่อ

2016-10-16 9 พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พี่น้องครับอาทิตย์นี้เราประชาชนและคริสตชนชาวไทยทุกคนคงเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดชคอลัมน์“คิดสักนิด…สะกิดใจ”ในอาทิตย์นี้พ่อจึงขออนุญาตน้อมนำ9 พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์และสิริมงคลสำหรับการดำเนินชีวิตและการแก้ไขปัญหาการทำงานในยุคปัจจุบันให้แก่พี่น้องกันนะครับ 1. คนดี “ในบ้านเมืองนั้นมีทั้งคนดีและคนไม่ดีไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมดการทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อยจึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดีหากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดีให้คนดีปกครองบ้านเมืองและควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้” (พระบรมราโชวาทในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ค่ายลูกเสือวชิราวุธจังหวัดชลบุรี 11 ธันวาคม2512) 2. อนาคตทำนายได้ […]

อ่านต่อ

2016-10-09 “ปรับมุมมอง”

พี่น้องครับชีวิตของเรามนุษย์มีทั้งความสว่างหรือความมืดด้านสว่างมีอยู่ด้วยกันหลายอย่างเช่นความรักความสุขชีวิตและการให้อภัยฯลฯส่วนความมืดเช่นความเกลียดชังความทุกข์ความตายและการอาฆาตพยาบาทฯลฯแต่ไม่ว่าจะเป็นในด้านหรือทิศทางใดจะสุขหรือทุกข์นั้นแท้จริงทัศนคติหรือการมองโลกของเราแต่ละคนนั่นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง มีอาจารย์เซนผู้หนึ่งมีศิษย์ที่ชอบบ่นและมักร้องทุกข์คร่ำครวญถึงความทุกข์ของตนเองอยู่เสมอและเนื่องจากทัศนคติและการมองโลกเช่นนี้จึงทำให้ศิษย์ผู้นี้มักจะมีแต่ความทุกข์กังวลและจิตใจไม่เป็นสุข วันหนึ่งอาจารย์เซนสั่งให้ศิษย์คนดังกล่าวไปตลาดซื้อเกลือมาถุงหนึ่ง        เมื่อศิษย์กลับมาจึงสั่งให้นำเกลือหยิบมือหนึ่งโปรยลงไปในแก้วบรรจุน้ำแล้วให้ศิษย์ดื่มลงไปพลางกล่าวถามว่า“รสชาติของน้ำเป็นอย่างไร?” “เค็มจนขม”ศิษย์ตอบด้วยใบหน้าเหยเก จากนั้นอาจารย์เซนได้พาศิษย์ไปยังริมทะเลสาบสั่งให้นำเกลือที่เหลือโปรยลงไปในทะเลสาบจนหมดสิ้นแล้วกล่าวว่า“ลองดื่มน้ำจากทะเลสาบดูสิ”ศิษย์จึงก้มตัวลงไปวักน้ำจากทะเลสาบขึ้นมาดื่ม อาจารย์เซนถามอีกว่า“คราวนี้รสชาติเป็นอย่างไรบ้าง?” ศิษย์ตอบว่า“รสชาติหวานสะอาดบริสุทธิ์ยิ่ง“ “ยังมีรสเค็มหรือไม่?”อาจารย์ถามต่อ “ไม่มี“ศิษย์ตอบ […]

อ่านต่อ

2016-10-02 พระคุณเจ้า ยวง นิตโย

พี่น้องครับอาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์สำคัญสำหรับเราพี่น้องชาวอัสสัมชัญทุกๆคนนะครับเพราะนอกจากเราจะมีการเปิดเดือนแม่พระ“คาทอลิกไทยพร้อมเพรียงไม่สิ้นเสียงสายประคำ”  ที่วัดในวันที่เสาร์1 ตุลาคมแล้วในวันถัดมาคือวันอาทิตย์ที่2 ตุลาคมพวกเรายังมีการระลึกถึงการจากไปครบ18 ปีของพระคุณเจ้ายวงนิตโยพระอัครสังฆราชชาวไทยคนแรกของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯและบิดาที่รักยิ่งของเราซึ่งมิสซาในทุกๆรอบของสัปดาห์นี้ทางวัดจะมีการระลึกถึงท่านเป็นพิเศษพ่อจึงขอใช้คอลัมน์ในบทความนี้เล่าถึงประวัติและชีวิตของพระคุณเจ้ายวงนิตโยแก่พี่น้องพอสังเขปนะครับ พระคุณเจ้ายอแซฟยวงนิตโยมีชื่อเดิมว่าเคียมสูนนิตโยเป็นบุตรของโทมัสฟุ้งและนางอันนากิมกี่นิตโยเกิดเมื่อวันที่29 พฤษภาคมค.ศ.1908ที่อำเภอลำลูกกาจังหวัดปทุมธานีท่านเป็นสัตบุรุษวัดพระวิสุทธิวงส์(ลำไทร) ราวปีค.ศ. 1913 ท่านและพี่น้องอีก3 […]

อ่านต่อ

Posts pagination

1 … 40 41 42 … 62

เกี่ยวกับวัดฯ

  • ประวัติอาสนวิหาร
  • แม่พระอัสสัมชัญ
  • บรรณฐาน
  • สถาปัตยกรรม
  • กระจกสี
  • ภาษาลาตินในวัด

บริการต่างๆ

  • ล้างบาปทารก / Baptisms
  • แต่งงาน / Wedding
  • การขออนุญาตถ่ายภาพ

สารวัดย้อนหลัง

  • บทสนทนาจากเจ้าอาวาส
  • คิดสักนิด...สะกิดใจ...
  • ปลัดแก่ ซอย40
  • ปี 2012

บุคลากร/องค์กรต่างๆในวัด

  • พระสงฆ์
  • สำนักงานวัด
  • สภาภิบาล
  • นักขับร้อง
  • สโมสรเยาวชน

ลิงค์คาทอลิก

  • สภาสังฆราชคาทอลิกประเทศไทย
  • อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
  • หอจดหมายเหตุ อัครสังฆมณฑลฯ
  • สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย
  • ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025
Facebook-f Youtube